 |
 |
 |
 |
|
วิเคราะห์ข้อขัดแย้ง |
 ศอฮาบะห์กางเต้นท์อ่านอัลกุรอานบนกุโบร์หรือ | 
อัลกอมะห์กับแม่ |
อิสลามเปลี่ยนวันใหม่ตอนมักริบไม่ใช่เที่ยงคืน |
เฝ้ากุโบร์ไม่ฮะราม..หรือ |
วิพากษ์หลักฐานเรื่องทำกุรบานให้คนตาย |
ถือศีลอดสิบวันแรกเดือนซุ้ลฮิจญะห์เป็นฮะดีษศอเฮียะห์หรือไม่ |
วันที่ 9 ซุ้ลฮิจญะห์ที่ไม่มีอะรอฟะห์ |
มีหลักฐานห้ามไหม |
|
|
|
|
|
|
|
บทความทั่วไป |
ทำบุญประเทศ |
เมื่อโลกหยุดหมุน |
ผีแม่ซื้อ |
ประเพณีการแต่งงานของมุสลิมภาคใต้ |
อาซูรอ 10 มุฮัรรอม กับตำนานกวนซุฆอ |
เมาตาคือใคร |
...ทาส... ตอนที่ 2 |
...ทาส... ตอนที่ 1 |
 | มุสลิม/หมวดที่1/บทที่86/ฮะดีษเลขที่ 0378
(1177 คำในบทความ)
(617 ครั้ง) 
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ قَالَ أُتِيَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم يَوْمًا بِلَحْمٍ فَرُفِعَ إِلَيْهِ الذِّرَاعُ وَكَانَتْ تُعْجِبُهُ فَنَهَسَ مِنْهَا نَهْسَةً فَقَالَ " أَنَا سَيِّدُ النَّاسِ يَوْمَ الْقِيَامَةِ وَهَلْ تَدْرُونَ بِمَ ذَاكَ يَجْمَعُ اللَّهُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ الأَوَّلِينَ وَالآخِرِينَ فِي صَعِيدٍ وَاحِدٍ فَيُسْمِعُهُمُ الدَّاعِي وَيَنْفُذُهُمُ الْبَصَرُ وَتَدْنُو الشَّمْسُ فَيَبْلُغُ النَّاسَ مِنَ الْغَمِّ وَالْكَرْبِ مَا لاَ يُطِيقُونَ وَمَا لاَ يَحْتَمِلُونَ فَيَقُولُ بَعْضُ النَّاسِ لِبَعْضٍ أَلاَ تَرَوْنَ مَا أَنْتُمْ فِيهِ أَلاَ تَرَوْنَ مَا قَدْ بَلَغَكُمْ أَلاَ تَنْظُرُونَ مَنْ يَشْفَعُ لَكُمْ إِلَى رَبِّكُمْ فَيَقُولُ بَعْضُ النَّاسِ لِبَعْضٍ ائْتُوا آدَمَ . فَيَأْتُونَ آدَمَ فَيَقُولُونَ يَا آدَمُ أَنْتَ أَبُو الْبَشَرِ خَلَقَكَ اللَّهُ بِيَدِهِ وَنَفَخَ فِيكَ مِنْ رُوحِهِ وَأَمَرَ الْمَلاَئِكَةَ فَسَجَدُوا لَكَ اشْفَعْ لَنَا إِلَى رَبِّكَ أَلاَ تَرَى إِلَى مَا نَحْنُ فِيهِ أَلاَ تَرَى إِلَى مَا قَدْ بَلَغَنَا فَيَقُولُ آدَمُ إِنَّ رَبِّي غَضِبَ الْيَوْمَ غَضَبًا لَمْ يَغْضَبْ قَبْلَهُ مِثْلَهُ وَلَنْ يَغْضَبَ بَعْدَهُ مِثْلَهُ وَإِنَّهُ نَهَانِي عَنِ الشَّجَرَةِ فَعَصَيْتُهُ نَفْسِي نَفْسِي اذْهَبُوا إِلَى غَيْرِي اذْهَبُوا إِلَى نُوحٍ . فَيَأْتُونَ نُوحًا فَيَقُولُونَ يَا نُوحُ أَنْتَ أَوَّلُ الرُّسُلِ إِلَى الأَرْضِ وَسَمَّاكَ اللَّهُ عَبْدًا شَكُورًا اشْفَعْ لَنَا إِلَى رَبِّكَ أَلاَ تَرَى مَا نَحْنُ فِيهِ أَلاَ تَرَى مَا قَدْ بَلَغَنَا فَيَقُولُ لَهُمْ إِنَّ رَبِّي قَدْ غَضِبَ الْيَوْمَ غَضَبًا لَمْ يَغْضَبْ قَبْلَهُ مِثْلَهُ وَلَنْ يَغْضَبَ بَعْدَهُ مِثْلَهُ وَإِنَّهُ قَدْ كَانَتْ لِي دَعْوَةٌ دَعَوْتُ بِهَا عَلَى قَوْمِي نَفْسِي نَفْسِي اذْهَبُوا إِلَى إِبْرَاهِيمَ صلى الله عليه وسلم . فَيَأْتُونَ إِبْرَاهِيمَ فَيَقُولُونَ أَنْتَ نَبِيُّ اللَّهِ وَخَلِيلُهُ مِنْ أَهْلِ الأَرْضِ اشْفَعْ لَنَا إِلَى رَبِّكَ أَلاَ تَرَى إِلَى مَا نَحْنُ فِيهِ أَلاَ تَرَى إِلَى مَا قَدْ بَلَغَنَا فَيَقُولُ لَهُمْ إِبْرَاهِيمُ إِنَّ رَبِّي قَدْ غَضِبَ الْيَوْمَ غَضَبًا لَمْ يَغْضَبْ قَبْلَهُ مِثْلَهُ وَلاَ يَغْضَبُ بَعْدَهُ مِثْلَهُ . وَذَكَرَ كَذَبَاتِهِ نَفْسِي نَفْسِي اذْهَبُوا إِلَى غَيْرِي اذْهَبُوا إِلَى مُوسَى . فَيَأْتُونَ مُوسَى صلى الله عليه وسلم فَيَقُولُونَ يَا مُوسَى أَنْتَ رَسُولُ اللَّهِ فَضَّلَكَ اللَّهُ بِرِسَالاَتِهِ وَبِتَكْلِيمِهِ عَلَى النَّاسِ اشْفَعْ لَنَا إِلَى رَبِّكَ أَلاَ تَرَى إِلَى مَا نَحْنُ فِيهِ أَلاَ تَرَى مَا قَدْ بَلَغَنَا فَيَقُولُ لَهُمْ مُوسَى صلى الله عليه وسلم إِنَّ رَبِّي قَدْ غَضِبَ الْيَوْمَ غَضَبًا لَمْ يَغْضَبْ قَبْلَهُ مِثْلَهُ وَلَنْ يَغْضَبَ بَعْدَهُ مِثْلَهُ وَإِنِّي قَتَلْتُ نَفْسًا لَمْ أُومَرْ بِقَتْلِهَا نَفْسِي نَفْسِي اذْهَبُوا إِلَى عِيسَى صلى الله عليه وسلم . فَيَأْتُونَ عِيسَى فَيَقُولُونَ يَا عِيسَى أَنْتَ رَسُولُ اللَّهِ وَكَلَّمْتَ النَّاسَ فِي الْمَهْدِ وَكَلِمَةٌ مِنْهُ أَلْقَاهَا إِلَى مَرْيَمَ وَرُوحٌ مِنْهُ فَاشْفَعْ لَنَا إِلَى رَبِّكَ أَلاَ تَرَى مَا نَحْنُ فِيهِ أَلاَ تَرَى مَا قَدْ بَلَغَنَا فَيَقُولُ لَهُمْ عِيسَى صلى الله عليه وسلم إِنَّ رَبِّي قَدْ غَضِبَ الْيَوْمَ غَضَبًا لَمْ يَغْضَبْ قَبْلَهُ مِثْلَهُ وَلَنْ يَغْضَبَ بَعْدَهُ مِثْلَهُ - وَلَمْ يَذْكُرْ لَهُ ذَنْبًا - نَفْسِي نَفْسِي اذْهَبُوا إِلَى غَيْرِي اذْهَبُوا إِلَى مُحَمَّدٍ صلى الله عليه وسلم فَيَأْتُونِّي فَيَقُولُونَ يَا مُحَمَّدُ أَنْتَ رَسُولُ اللَّهِ وَخَاتَمُ الأَنْبِيَاءِ وَغَفَرَ اللَّهُ لَكَ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِكَ وَمَا تَأَخَّرَ اشْفَعْ لَنَا إِلَى رَبِّكَ أَلاَ تَرَى مَا نَحْنُ فِيهِ أَلاَ تَرَى مَا قَدْ بَلَغَنَا فَأَنْطَلِقُ فَآتِي تَحْتَ الْعَرْشِ فَأَقَعُ سَاجِدًا لِرَبِّي ثُمَّ يَفْتَحُ اللَّهُ عَلَىَّ وَيُلْهِمُنِي مِنْ مَحَامِدِهِ وَحُسْنِ الثَّنَاءِ عَلَيْهِ شَيْئًا لَمْ يَفْتَحْهُ لأَحَدٍ قَبْلِي ثُمَّ يُقَالُ يَا مُحَمَّدُ ارْفَعْ رَأْسَكَ سَلْ تُعْطَهْ اشْفَعْ تُشَفَّعْ . فَأَرْفَعُ رَأْسِي فَأَقُولُ يَا رَبِّ أُمَّتِي أُمَّتِي . فَيُقَالُ يَا مُحَمَّدُ أَدْخِلِ الْجَنَّةَ مِنْ أُمَّتِكَ مَنْ لاَ حِسَابَ عَلَيْهِ مِنَ الْبَابِ الأَيْمَنِ مِنْ أَبْوَابِ الْجَنَّةِ وَهُمْ شُرَكَاءُ النَّاسِ فِيمَا سِوَى ذَلِكَ مِنَ الأَبْوَابِ وَالَّذِي نَفْسُ مُحَمَّدٍ بِيَدِهِ إِنَّ مَا بَيْنَ الْمِصْرَاعَيْنِ مِنْ مَصَارِيعِ الْجَنَّةِ لَكَمَا بَيْنَ مَكَّةَ وَهَجَرٍ أَوْ كَمَا بَيْنَ مَكَّةَ وَبُصْرَى "
อบูฮุรอยเราะห์ รายงานว่า มีผู้นำอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์มาให้ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ในวันหนึ่ง และเนื้อตรงส่วนตะโพกถูกส่งให้ท่านรอซูล ซึ่งท่านชอบรับประทานมาก ท่านกัดมันอย่างเอร็ดอร่อย พลางกล่าวว่า ฉันเป็นผู้นำแห่งมนุษยชาติในวันกิยามะห์ พวกเจ้ารู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นในวันที่พระองค์อัลลอฮ์รวมมนุษย์ตั้งแต่คนแรกจนคนสุดท้ายไว้สถานที่เดียวกันในวันกิยามะห์ เสียงของพวกเขาจะทำให้ได้ยินไปทั่ว สายตาของพวกเขาจะมองเห็นกันอย่างทั่วถึง ดวงอาทิตย์จะถูกทำให้ต่ำลง ความความทุกข์ทรมานและความวิตกกังวลจะเกิดแก่มนุษย์ จนพวกเขาไม่สามารถอดทน และอยู่เฉยต่อไปได้ พวกเขาจึงต่างกล่าวกันว่า พวกท่านไม่เห็นหรือว่าเกิดอะไรขึ้น และพวกท่านไม่เห็นหรือว่าอะไรจะมาประสบกับพวกท่าน ทำไม่พวกท่านไม่หาคนที่จะช่วยพวกท่านในการขอต่อองค์อภิบาลของพวกท่าน แล้วผู้คนต่างก็เสนอกันว่า ให้ไปขอความช่วยเหลือจากนบีอาดัม ดังนั้นพวกเขาจึงมาหาท่านนบีอาดัม แล้วกล่าวว่า โอ้อาดัมเอ๋ย ท่านเป็นบรรพบุรุษแห่งมนุษยชาติ อัลลอฮ์สร้างท่านมาด้วยกับพระหัตของพระองค์ และทรงเป่าวิญญาณจากพระองค์ในร่างท่าน และใช้ให้บรรดามะลาอิกะห์คาราวะท่าน แล้วพวกเขาก็คาราวะต่อท่าน ได้โปรดขอความช่วยเหลือจากองค์อภิบาลของท่านให้แก่พวกเราด้วยเถิด ท่านไม่เห็นหรือว่าสภาพของพวกเราเป็นอย่างไร,ท่านไม่เห็นหรือว่าอะไรเกิดขึ้นกับพวกเรา แต่ท่านนบีอาดัมจะตอบว่า แท้จริงองค์อภิบาลของฉันทรงโกรธมากในวันนี้ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย ทั้งก่อนหน้านี้และหลังจากวันนี้ เพราะพระองค์ได้เคยห้ามฉันไม่ให้เข้าใกล้ต้นไม้หนึ่ง แต่ตัวฉัน,ตัวฉันเองนี่แหละที่ฝ่าฝืนคำสั่งของพระองค์ พวกเจ้าจงไปหาคนอื่น พวกเจ้าจงไปหานัวฮ์เถอะ
พวกเขาจึงไปหานบีนัวฮ์ แล้วกล่าวว่า โอ้นัวฮ์เอ๋ย ท่านเป็นศานทูตคนแรกของโลก พระองค์อัลลอฮ์ทรงขนานนามท่านว่า บ่าวผู้รู้คุณ ได้โปรดขอความช่วยเหลือต่องค์อภิบาลของท่านให้แก่พวกเราด้วยเถิด ท่านไม่เห็นหรือว่าสภาพของพวกเราเป็นอย่างไร,ท่านไม่เห็นหรือว่าอะไรเกิดขึ้นกับพวกเรา นบีนัวฮ์ได้ตอบกับพวกเขาว่า แท้จริงองค์อภิบาลของฉันทรงโกรธมากในวันนี้ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย ทั้งก่อนหน้านี้และหลังจากนี้ เพราะการเผยแพร่เป็นหน้าที่ของฉัน แต่ฉันกลับวิงวอนสาปแช่งประชาชาติของฉันเอง ฉันนี่แหละที่สาปแช่งพวกเขา พวกเจ้าจงไปหาอิบรอฮีม ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมเถิด
พวกเขาจึงมาหานบีอิบรอฮีม แล้วกล่าวว่า ท่านคือนบีของอัลลอฮ์ และเป็นผู้สนิทกับพระองค์มากที่สุดในชาวโลก โปรดขอความช่วยเหลือต่อองค์อภิบาลของท่านให้แก่พวกเราด้วยเถิด ท่านไม่เห็นหรือว่าสภาพของพวกเราเป็นอย่างไร,ท่านไม่เห็นหรือว่าอะไรเกิดขึ้นกับพวกเรา นบีอิบรอฮีมได้ตอบพวกเขาว่า แท้จริงองค์อภิบาลของฉันทรงโกรธมากในวันนี้ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย ทั้งก่อนหน้านี้และหลังจากนี้ และนบีอิบรอฮีมได้พูดถึงการโกหกของท่าน (และกล่าวว่า) ตัวฉันเอง,ตัวฉันเองนี่แหละ (ที่เคยกระทำผิด) ไปหาคนอื่นเถอะ , พวกเจ้าจงไปหามูซาเถิด
พวกเขาจึงได้มาหานบีมูซา ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม แล้วกล่าวว่า โอ้มูซาเอ๋ย ท่านคือศาสนทูตของอัลลอฮ์ พระองค์ทรงให้ท่านประเสริฐกว่าผู้อื่น ด้วยสาสน์ของพระองค์ที่มีถึงท่านและพระองค์ทรงสนทนากับท่าน ได้โปรดขอความช่วยเหลือต่อองค์อภิบาลของท่านให้แก่พวกเราด้วยเถิด ท่านไม่เห็นหรือว่าพวกเราประสบกับทุกข์ยากเช่นใด นบีมูซา ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้ตอบกับพวกเขาว่า แท้จริงองค์อภิบาลของฉันทรงโกรธมากในวันนี้ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย ทั้งก่อนหน้านี้และหลังจากนี้ เพราะฉันเคยสังหารคนคนหนึ่งทั้งที่ฉันไม่ได้ถูกใช้ให้กระทำเช่นนั้นเลย ตัวฉันเอง, ตัวฉันนี่แหละ พวกเจ้าจงไปหาอีซา ศ็อลล็ฮลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมเถิด
พวกเขาจึงมาหานบีอีซา แล้วกล่าวว่า โอ้อีซาเอ๋ย ท่านคือศาสนทูตของอัลลอฮ์ พระองค์ทรงให้ท่านพูดกับผู้คนตั้งแต่อยู่ในเปล และท่านก็เป็นประกาศิตจากพระองค์ที่มีสู่ท่านหญิงมัรยำ และเป็นดวงวิญญาณบริสุทธิ์จากพระองค์ ได้โปรดขอความช่วยเหลือต่อองค์อภิบาลของท่านให้แก่พวกเราด้วยเถิด ท่านไม่เห็นหรือว่าสภาพของพวกเราเป็นอย่างไร,ท่านไม่เห็นหรือว่าอะไรเกิดขึ้นกับพวกเรา ท่านนบีอีซา ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้ตอบพวกเขาว่า แท้จริงองค์อภิบาลของฉันทรงโกรธมากในวันนี้ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย ทั้งก่อนหน้านี้และหลังจากนี้ -ท่านนบีไม่ได้พูดถึงความผิดของเขา (เพียงแค่กล่าวว่า) ตัวฉันเอง,ตัวฉันเองนี่แหละ ไปหาคนอื่นเถอะ พวกเจ้าจงไปหา มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมเถิด
ดังนั้นพวกเขาจึงมาหาฉัน แล้วกล่าวว่า โอ้มูฮัมหมัดเอ๋ย ท่านคือศาสนทูตของอัลลอฮ์ เป็นนบีท่านสุดท้าย พระองค์อัลลอฮ์ทรงอภัยโทษให้แก่ท่านทั้งความผิดในอดีตและอนาคต ได้โปรดขอความช่วยเหลือต่อองค์อภิบาลของท่านให้แก่พวกเราด้วยเถิด ท่านไม่เห็นหรือว่าสภาพของพวกเราเป็นอย่างไร,ท่านไม่เห็นหรือว่าอะไรเกิดขึ้นกับพวกเรา ดังนั้นฉันจึงออกมาที่ด้านล่างบัลลังก์ แล้วทรุดตัวลงในสภาพเป็นผู้ที่สุญูดต่อองค์อภิบาลของฉัน แล้วพระองค์อัลลอฮ์ก็ทรงอนุมัติแก่ฉันและดลใจฉัน ในการกล่าวถ้อยความสรรเสริญสดุดีต่อพระองค์ด้วยถ้อยความที่สวยงามโดยที่พระองค์ไม่เคยให้แก่ผู้ใดมาก่อนฉัน หลังจากนั้นพระองค์ก็กล่าวว่า โอ้มูฮัมหมัด เงยศีรษะของเจ้าขึ้นเถิด แล้วพูดมา คำพูดของเจ้าจะถูกรับฟัง จงขอ คำขอของเจ้าจะถูกตอบรับ จงขอความช่วยเหลือและก็จะได้รับการช่วยเหลือ ดังนั้นฉันจึงเงยศีรษะของฉันขึ้นแล้วกล่าวว่า โอ้องค์อภิบาลเอ๋ย ประชาชาติของฉัน,พวกเขาเป็นประชาชาติของฉัน, แล้วจะถูกกล่าวขึ้นว่า โอ้มูฮัมหมัด จงเอาประชาชาติของเจ้า (ส่วนหนึ่ง) ที่ไม่ต้องถูกสอบสวน เข้าสวรรค์ทางบรรดาประตูด้านขวา ส่วนพวกที่เหลือจะใช้ได้ประตูอื่นๆร่วมกัน ขอสาบานต่อ (อัลลอฮ์) ผู้ซึ่งที่ชีวิตของมูฮัมหมัด อยู่ในอุ้งพระหัตของพระองค์ว่า ความกว้างของเสาวงกบประตูสวรรค์แต่ละบานนั้น จะเท่ากับระยะทางจาก มักกะห์ ถึง ฮะญัร (ชื่อตำบลหนึ่งในนคนมะดีนะห์ และเป็นชื่อเมืองในบะห์เรน) หรือระหว่าง มักกะห์ กับบุศรอ (ชื่อเมืองอยู่ใกล้กับกรุงดามัสกัสยนรหลวงของประเทศซีเรีย)
|
[ กลับไป ซอเฮี๊ยะห์มุสลิม | สารบัญฮะดีษ ] |
|
| |
| |
| | |
|
