มุสลิม/หมวดที่3/บทที่8/ฮะดีษเลขที่ 0614
أَنَّ ثَوْبَانَ، مَوْلَى رَسُولِ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم حَدَّثَهُ قَالَ كُنْتُ قَائِمًا عِنْدَ رَسُولِ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم فَجَاءَ حَبْرٌ مِنْ أَحْبَارِ الْيَهُودِ فَقَالَ السَّلاَمُ عَلَيْكَ يَا مُحَمَّدُ ‏.‏ فَدَفَعْتُهُ دَفْعَةً كَادَ يُصْرَعُ مِنْهَا فَقَالَ لِمَ تَدْفَعُنِي فَقُلْتُ أَلاَ تَقُولُ يَا رَسُولَ اللَّهِ ‏.‏ فَقَالَ الْيَهُودِيُّ إِنَّمَا نَدْعُوهُ بِاسْمِهِ الَّذِي سَمَّاهُ بِهِ أَهْلُهُ ‏.‏ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم ‏"‏ إِنَّ اسْمِي مُحَمَّدٌ الَّذِي سَمَّانِي بِهِ أَهْلِي ‏"‏ ‏.‏ فَقَالَ الْيَهُودِيُّ جِئْتُ أَسْأَلُكَ ‏.‏ فَقَالَ لَهُ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم ‏"‏ أَيَنْفَعُكَ شَىْءٌ إِنْ حَدَّثْتُكَ ‏"‏ ‏.‏ قَالَ أَسْمَعُ بِأُذُنَىَّ فَنَكَتَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم بِعُودٍ مَعَهُ ‏.‏ فَقَالَ ‏"‏ سَلْ ‏"‏ ‏.‏ فَقَالَ الْيَهُودِيُّ أَيْنَ يَكُونُ النَّاسُ يَوْمَ تُبَدَّلُ الأَرْضُ غَيْرَ الأَرْضِ وَالسَّمَوَاتُ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم ‏"‏ هُمْ فِي الظُّلْمَةِ دُونَ الْجِسْرِ ‏"‏ ‏.‏ قَالَ فَمَنْ أَوَّلُ النَّاسِ إِجَازَةً قَالَ ‏"‏ فُقَرَاءُ الْمُهَاجِرِينَ ‏"‏ ‏.‏ قَالَ الْيَهُودِيُّ فَمَا تُحْفَتُهُمْ حِينَ يَدْخُلُونَ الْجَنَّةَ قَالَ ‏"‏ زِيَادَةُ كَبِدِ النُّونِ ‏"‏ قَالَ فَمَا غِذَاؤُهُمْ عَلَى إِثْرِهَا قَالَ ‏"‏ يُنْحَرُ لَهُمْ ثَوْرُ الْجَنَّةِ الَّذِي كَانَ يَأْكُلُ مِنْ أَطْرَافِهَا ‏"‏ ‏.‏ قَالَ فَمَا شَرَابُهُمْ عَلَيْهِ قَالَ ‏"‏ مِنْ عَيْنٍ فِيهَا تُسَمَّى سَلْسَبِيلاً ‏"‏ ‏.‏ قَالَ صَدَقْتَ ‏.‏ قَالَ وَجِئْتُ أَسْأَلُكَ عَنْ شَىْءٍ لاَ يَعْلَمُهُ أَحَدٌ مِنْ أَهْلِ الأَرْضِ إِلاَّ نَبِيٌّ أَوْ رَجُلٌ أَوْ رَجُلاَنِ ‏.‏ قَالَ ‏"‏ يَنْفَعُكَ إِنْ حَدَّثْتُكَ ‏"‏ ‏.‏ قَالَ أَسْمَعُ بِأُذُنَىَّ ‏.‏ قَالَ جِئْتُ أَسْأَلُكَ عَنِ الْوَلَدِ قَالَ ‏"‏ مَاءُ الرَّجُلِ أَبْيَضُ وَمَاءُ الْمَرْأَةِ أَصْفَرُ فَإِذَا اجْتَمَعَا فَعَلاَ مَنِيُّ الرَّجُلِ مَنِيَّ الْمَرْأَةِ أَذْكَرَا بِإِذْنِ اللَّهِ وَإِذَا عَلاَ مَنِيُّ الْمَرْأَةِ مَنِيَّ الرَّجُلِ آنَثَا بِإِذْنِ اللَّهِ ‏"‏ ‏.‏ قَالَ الْيَهُودِيُّ لَقَدْ صَدَقْتَ وَإِنَّكَ لَنَبِيٌّ ثُمَّ انْصَرَفَ فَذَهَبَ ‏.‏ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم ‏"‏ لَقَدْ سَأَلَنِي هَذَا عَنِ الَّذِي سَأَلَنِي عَنْهُ وَمَا لِي عِلْمٌ بِشَىْءٍ مِنْهُ حَتَّى أَتَانِيَ اللَّهُ بِهِ ‏"‏  


               
เซาว์บาน คนรับใช้ของท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้เล่าให้ฟังขณะที่ตัวเขาอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยว่า ขณะที่ฉันยืนอยู่กับท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้มีนักพรตคนหนึ่งในหมู่ยิว (เขาคืออับดุลลอฮ์ บินสลาม ก่อนที่จะเข้ารับอิสลาม ซึ่งเป็นปราชญ์ในหมู่ยิว) มาหาท่าน พร้อมกล่าวว่า ขอศานติจงมีแด่ท่านโอ้มูฮัมหมัด ดังนั้นฉันจึงผลักเขาอย่างแรงจนเขาเกือบจะตกจากที่ตรงนั้น เขากล่าวว่า เจ้าผลักข้าด้วยเรื่องอะไร ฉันกล่าวว่า (ท่านเรียกเขาว่า โอ้มูฮัมหมัด) ทำไมท่านไม่เรียกว่า โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ ชาวยิวผู้นั้นกล่าวว่า ก็เราเรียกชื่อเขาตามที่ครอบครัวของเขาตั้งให้
                ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ชื่อของฉันคือมูฮัมหมัด ซึ่งคนในครอบครัวของฉันเรียกฉันด้วยชื่อนี้ ชาวยิวผู้นั้นกล่าวว่า ฉันมาที่นี่เพื่อจะถามคำถามท่าน, ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวกับเขาว่า คำตอบของฉันจะมีประโยชน์ใดๆกับท่านหรือ เขากล่าวว่า ฉันต้องการจะฟังคำตอบนั้นด้วยหูของฉันเอง  ท่านรอซูลได้เอาไม้ที่ติดตัวท่านอยู่ขีดบนพื้นทราย แล้วกล่าวว่า จงถามมาเถิด ชาวยิวผู้นั้นถามว่า มนุษย์จะอยู่กันที่ไหนในวันที่แผ่นดินถูกเปลี่ยนไป ซึ่งไม่ใช่ฟ้าและแผ่นดินนี้ ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า พวกเขาจะอยู่กันในที่มืดด้านข้างสะพาน (ที่ทอดผ่านนรก) เขาถามต่อไปว่า แล้วใครเป็นกลุ่มแรกที่จะได้ข้ามผ่านไป ท่านตอบว่า ชาวมุฮาญีรีนผู้ยากไร้ (ผู้ลี้ภัยออกจากนครมักกะห์พร้อมกับท่านรอซูล)  เขาถามอีกว่า  และอะไรคืออาหารมื้อแรกของพวกเขาก่อนจะเข้าสวรรค์ ท่านตอบว่า ส่วนปลายของตับปลาวาฬ  เขาถามว่า อะไรคืออาหารมื้อต่อไปสำหรับพวกเขา  ท่านตอบว่า วัวสวรรค์จะถูกเชือดเป็นอาหารสำหรับพวกเขา ซึ่งพวกเขาจะกินกันรอบๆสวรรค์ เขาถามว่า แล้วอะไรเป็นเครื่องดื่มของพวกเขา ท่านตอบว่า ตาน้ำที่ผุดขึ้นมา มันถูกเรียกว่า ซัลซะบีลา เขากล่าวว่า ท่านพูดถูกต้องแล้ว
                เขากล่าวต่อไปว่า ฉันมาที่เพื่อจะถามท่านในสิ่งที่ไม่มีผู้ใดบนโลกนี้จะรู้ได้ นอกจากผู้นั้นเป็นนบีของอัลลอฮ์ หรือเพียงคนหนึ่งหรือสองคนเท่านั้น ท่านรอซูลกล่าวว่า จะมีประโยชน์กับท่านหรือหากฉันได้บอกกับท่าน เขากล่าวว่า ฉันต้องการจะฟังด้วยหูของฉันเอง เขากล่าวว่า ฉันมาเพื่อจะถามท่านเกี่ยวกับเด็กที่คลอดออกมา ท่านนบีกล่าวว่า  อสุจิของชายนั้นมีสีขาว ส่วนอสุจิของหญิงนั้นค่อนไปทางเหลือง เมื่อน้ำอสุจิทั้งสองมาผสมกัน (ก็จะเกิดการปฏิสนธิ) หากว่าอสุจิของฝ่ายชายแข็งแรงกว่าอสุจิของฝ่ายหญิง ก็จะกำเนิดเป็นเพศชาย ด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์  แต่หากอสุจิของฝ่ายหญิงแข็งแรงกว่าอสุจิของฝ่ายชาย ก็จะกำเนิดเป็นเพศหญิงด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์  ชาวยิวผู้นั้นกล่าวว่า ท่านพูดถูกต้องแล้ว ท่านเป็นนบีจริงๆ 
               หลังจากนั้นเขาก็กลับไป ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า สิ่งที่ชายผู้นี้ได้ถามฉันนั้นเป็นสิ่งที่ฉันเคยถูกถามมาก่อนแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันไม่มีความรู้ใดๆเลยจนกระทั่งพระองค์ได้มอบความรู้ให้กับฉัน





ฮะดีษนี้มาจาก อ.ฟารีด เฟ็นดี้
http://www.fareedfendy.com

URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.fareedfendy.com/modules.php?name=Sections2&op=viewarticle2&artid=911