วันที่ 6 มีนาคม 2549
เพื่อนผมคนหนึ่งไม่ใช่มุสลิมโทรศัพท์มาปรารภว่า “เห็นหน้าไอ้เหลี่ยมออกโทรทัศน์ทีไร ต้องเอาตีนลูบจอ” ผมไม่ถามเขาว่าทำไม เพราะรู้ดีว่าสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ต่างอะไรกับน้ำที่กำลังเชี่ยว ก็ได้แต่เตือนสติว่า ทำอย่างนั้นแล้วคนในจอเขาจะรับรู้หรือ ยิ่งจะทำให้จอโทรทัศน์เปื้อนเปล่าๆ
เขาตอบว่า ...สะใจโว้ย...
นี่เป็นหนึ่งในอารมณ์ของคนในบ้านนี้เมืองนี้ ที่แสดงอาการโกรธ โดยมีผลมาจากความเกลียด หลายคนทนไม่ได้ที่มีผู้นำสัปปรับ โกหก หลอกลวงคนทั้งประเทศ และ ฯลฯ
แม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับนายทักษิณ ชินวัตร เช่นกัน แต่ก็อยากให้คนในบ้านนี้เมืองนี้มีสติ อย่าโกรธแบบไร้สติ ไม่เช่นแล้วจะนำพาชาติบ้านเมืองไปสู่ความหายนะ โดยเฉพาะขณะนี้คนในชาติแบ่งฝักแบ่งฝ่ายชัดเจน บางครั้งคนบ้านเดียวกันก็ทะเลาะกันเอง เพราะหนุนกันคนละขั้ว ซึ่งประเด็นหลักไม่ได้อยู่ที่ซีกรัฐบาลหรือซีกฝ่ายค้าน แต่ประเด็นหลักอยู่ที่คนๆ เดียวคือ ทักษิณ ชินวัตร ที่ขณะนี้ยังไม่แสดงจิตสำนึกของการเสียสละเพื่อชาติ เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ฉะนั้นจึงกระทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจโดยอ้างประชาธิปไตย แล้วหันกลับไปสร้างม็อบชนม๊อบ เพื่ออาศัยประชาชนอำพรางตน เขากล้าที่จะเอาประชาชนสู้กับประชาชน นี่คือความกล้าของคนบ้าอำนาจโดยไม่คำนึงถึงความหายนะที่จะเกิดขึ้นในบ้านนี้เมืองนี้
เราได้เห็นม๊อบจัดตั้ง ม๊อบจ้างตั้ง หรือพลังบริสุทธิ์ของประชาชนที่ต้องการมีส่วนร่วม ที่เรียกว่า กู้ชาติ แต่อย่าลืม ! พลังเงียบเป็นอันขาด เพราะยังมีประชาชนอีกส่วน (ใหญ่) ที่เฝ้ามองเหตุการณ์ โดยพวกเขาไม่ถูกซื้อ ไม่ถูกจ้างวาน และพวกเขาอาจเคยเป็นหนึ่งใน 19 ล้านเสียง ที่ทักษิณภูมิใจเป็นนักหนาก็ว่าได้ ลองสำรวจพลังเงียบเหล่านี้หน่อยเป็นไร ว่าพวกเขาจะพูดคำเดียวกับ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อธิปไตยหรือไม่
ทักษิณ... ออกไป...ถากศิล... ออกไป...
อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้
สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.