เป็นเรื่องแปลก ถ้ามีใครกล่าวว่า ลัทธิชีอะห์ อิหม่ามสิบสองยกย่องเชิดชู ท่านอบูบักร์,ท่านอุมัร,และท่านอุสมาน, เพราะทั้งสามท่านนี้คือบุคคลที่ชีอะห์อิหม่ามสิบสองเชื่อว่า เป็นผู้อธรรมต่ออะห์ลุ้ลบัยต์ แต่เราได้พิสูจน์ให้เห็นข้อเท็จจริงมาก่อนหน้านี้แล้วว่า คำโพทนาของพวกเขานั้นห่างไกลจากแนวทางของอะห์ลุ้ลบัยต์ตัวจริงที่เป็นลูกหลาน,วงศ์วานของท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เพราะพวกเขาต่างรักใคร่ปรองดองซึ่งกันและกัน ยิ่งไปกว่านั้นเรายังได้พบสายสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่าง อะห์ลุลบัยต์ ที่เป็นครอบครัว,วงศ์วานของท่านนบีกับเหล่าบุคคลที่ชีอะห์อิหม่ามสิบสองได้ด่าประณาม ซึ่งเราจะเรียงลำดับให้ท่านได้เห็นภาพโดยเริ่มตั้งแต่ท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ดังนี้
ท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้นิกะห์กับท่านหญิงอาอิชะห์ บุตรสาวของท่านอบูบักร อัศศิดดีก และได้นิกะห์กับท่านหญิงฮับเซาะห์ บุตรสาวของท่านอุมัร อิบนุลค๊อตต๊อบ ซึ่งชีอะห์อิหม่ามสิบสองถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจ
เป็นไปได้หรือที่ท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม จะแต่งงานกับลูกสาวของกาเฟรที่เป็นศัตรูกับอิสลาม ก็ในเมื่อทั้งชาวซุนนะห์และลัทธิชีอะห์ต่างก็เชื่อว่า ท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เป็นมะอ์ศูม ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากพระองค์อัลลอฮ์
นอกจากนั้นท่านนบียังจัดการแต่งงานบุตรสาวของท่านชื่อรุกอยยะห์ ให้แก่ท่านอุสมาน บินอัฟฟาน และเมื่อท่านหญิงรุกอยยะห์เสียชีวิต ท่านนบีก็ยกลูกสาวอีกคนหนึ่งชื่อ อุมมุกัลโซม ให้แก่ท่านอุสมานอีกด้วย จนกระทั่งท่านอุสมานได้รับฉายาว่า “ซุลนูรอยนี่” แปลว่า เจ้าของรัศมีทั้งสอง
ก็ในเมื่อทั้งชาวซุนนะห์และลัทธิชีอะห์ต่างเชื่อว่า ท่านนบีได้รับการปกป้องให้พ้นจากความผิด แล้วเพราะเหตุใดท่านนบีจึงยอมยกลูกสาวให้ศัตรูตัวฉกาจผู้นี้เล่า หรือศัตรูตัวฉกาจที่แท้จริงคือลัทธิชีอะห์อิหม่ามสิบสอง ที่บิดเบือนและจ้องทำลายอิสลาม
ในขณะที่ลัทธิชีอะห์อิหม่ามสิบสองก่นด่าบุคคลที่เป็นเครือญาติใกล้ชิดกับท่านนบี แต่เรากลับพบว่า บรรดาอะห์ลุ้ลบัยต์ โดยเฉพาะที่เป็นอิหม่ามของเหล่าชีอะห์เอง กลับมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นต่อบุคคลที่ชีอะห์เกลียดชังหรือสายตระกูลของบุคคลที่ชีอะห์ด่าประณาม โดยการแต่งงานซึ่งกันและกัน หรือจัดการแต่งงานให้แก่ลูกหรือหลานของกันและกัน ตัวอย่างเช่น
ท่านอาลี อิบนิอบีตอลิบ อิหม่ามลำดับที่หนึ่งของชีอะห์ ได้นิกะห์บุตรสาวของท่านชื่อ อุมมุกัลป์โซม ให้แก่ท่านอุมัร อิบนุ้ลค๊อตต๊อบ โดยสมัครใจ เหตุที่เราต้องย้ำคำว่า โดยสมัครใจ นั้นเพื่อจะยืนยันว่า ท่านอาลีไม่ได้ถูกข่มขู่หรือถูกบังคับ แต่ท่านอาลีพึงพอใจในตัวท่านอุมัร แต่ถ้าเหล่าชีอะห์จะอ้างว่า ท่านอาลีถูกข่มขู่หรือถูกบังคับให้ทำการนิกะห์ลูกสาวของท่านกับท่านอุมัร ก็เท่ากับเหล่าชีอะห์ได้ทำให้ลักษณะการเป็นอิหม่ามตามความเชื่อของชีอะห์เองนั้นต้องบกพร่องไป เพราะลักษณะของผู้ที่จะเป็นอิหม่ามตามความเชื่อของชีอะห์นั้นต้องเป็นผู้ที่มีความกล้าหาญมิใช่หรือ แต่ถ้าหากเป็นดั่งที่ลัทธิชีอะห์กล่าวอ้าง ก็เป็นที่เคลือบแคลงว่า ผู้ขี้ขาดตาขาวเช่นท่านอาลีขาดคุณสมบัติในการเป็นอิหม่าม แล้วข้ออ้างของลัทธิชีอะห์จะเป็นการยกย่องให้เกียรติหรือดูถูกเหยียดหยามท่านอิหม่ามอาลีกันแน่
หรือการที่ชีอะห์เชื่อกันว่า บรรดาอิหม่ามนั้นต้องเป็น มะอ์ศูม หมายถึงบุคคลที่ปราศจากมลทิน ถ้าเช่นนั้นแล้ว การที่ท่านอาลีแต่งงานลูกสาวของท่านให้กับกาเฟรที่ชื่ออุมัร ก็เท่ากับว่า อิหม่ามอาลีได้กระทำผิดมหันต์ แล้วอย่างนี้ท่านจะยังคงอยู่ในสถานะมะอ์ศูมอยู่อีกหรือ แล้วท่านอาลีจะจะยังคงเป็นอิหม่ามได้อย่างไรก็ในเมื่อท่านขาดคุณสมบัติประการสำคัญเช่นนี้
เหล่านี้คือข้ออ้างเท็จที่ทำลายสถานภาพของท่านอาลีทั้งสิ้น และด้วยน้ำมือของชีอะห์เองเสียด้วย ดังนั้นเราจึงได้ย้ำคำในตอนต้นว่า ท่านอาลีสมัครใจ และพึงพอใจในตัวท่านอุมัร ทั้งนี้เพื่อปกป้องท่านอาลีให้พ้นจากคำครหาตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ซึ่งต่างกับคำโพทนาและความประพฤติอันนอกคอกของลัทธิชีอะห์อิหม่ามสิบสองเสียนี่กระไร
นอกจากนั้นแล้วเรายังพบว่า อะห์ลุ้ลบัยต์โดยบรรดาอิหม่ามของชีอะห์อิหม่ามสิบสองได้มีความสัมพันธ์แนบแน่นบรรดาลูกหลานของบุคคลที่ชีอะห์อิหม่ามสิบสองด่าประณามและสาปแช่ง เช่น
อบาน บุตรชายของท่านอุสมาน บินอัฟฟาน แต่งงานกับ อุมมุกัลป์โซม บุตรสาวของ อับดุลลอฮ์ บินยะอ์ฟัร อิบนิอบีตอลิบ
มัรวาน บุตรของ อบาน หลานชายของท่านอุสมาน บินอัฟฟาน แต่งงานกับอุมมุกอเซ็ม บุตรสาวของ ท่านฮะซัน บุตรของอัลฮะซัน บินอาลี บินอบีตอลิบ
เซด บุตรชายของอัมร์ หลานชายของท่านอุสมาน บินอัฟฟาน แต่งงานกับ ซะกีนะห์ บุตรสาวของ ท่านฮุเซน
อับดุลลอฮ์ บุตรของอัมร์ หลานชายอีกคนหนึ่งของท่านอุสมาน บินอัฟฟาน แต่งงานกับฟาติมะห์ บุตรสาวของ ท่านฮุเซน
ขณะที่เหล่าชีอะห์ด่าประณามท่านอุสมาน บินอัฟฟานอยู่นั้น อิหม่ามของเหล่าชีอะห์เอง คือท่านฮะซัน และท่านฮุเซน กลับมอบลูกสาวหรือหลานสาวให้กับลูกชายหรือหลานชายของท่านอุสมาน ซึ่งเราก็มั่นใจว่า ท่านฮาซัน และท่านฮุเซน มีความความสัมพันธ์ที่แนบแน่น รักใคร่ปรองดองกับบุคคลเหล่านี้ โดยไม่มีร่องรอยของความขุ่นเคืองใดๆให้เห็นเลย ยิ่งไปกว่านั้นบรรดาอิหม่ามของเหล่าชีอะห์ ยังได้นำชื่อบุคคลที่ชีอะห์ด่าประณามไปตั้งชื่อลูกๆ ของพวกเขาอีกด้วย ตัวอย่างเช่น
ท่านอาลี อิบนิอบีตอลิบ อิหม่ามลำดับที่ 1 ของชีอะห์ได้ตั้งชื่อลูกชายของท่านที่เกิดกับ ลัยลา บินติมัสอู๊ด ว่า อบูบักร์ และตั้งชื่อลูกชายของท่านที่เกิดกับ อุมมุฮะบีบ บินติรอบีอะห์ ว่า อุมัร และตั้งชื่อลูกชายของท่านที่เกิดจาก อุมมุบะนีน บินติฮิชาม ว่า อุสมาน
ท่านฮะซัน อิบนิอาลี อิบนิอบีตอลิบ อิหม่ามลำดับที่ 2 ของชีอะห์ ตั้งชื่อบุตรชายของท่านว่า อบูบักร์ และอุมัร
ท่านฮุเซน อิบนิอาลี อิบนิอบีตอลิบ อิหม่ามลำดับที่ 3 ของชีอะห์ได้ตั้งชื่อลูกชายของท่านว่า อบูบักร์,อับดุลเราะห์มาน, ตอลฮะห์, อุบัยดิลลาฮ์
ท่านอาลี อิบนุลฮุเซน หรือรู้จักกันในนาม ซัยนุ้ยอาบีดีน อิหม่ามลำดับที่ 4 ของชีอะห์ และท่านมูซา อัลกาเซ็ม อิหม่ามลำดับที่ 7 ของชีอะห์ ก็ตั้งชื่อลูกชายของท่านว่า อบูบักร์และอุมัร เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะท่านมูซา อัลกาเซ็ม นั้นยังได้ตั้งชื่อลูกสาวของท่านว่า อาอิชะห์ อีกด้วย
ที่กล่าวมาแล้วนี้มิใช่เป็นการยกเมฆใส่ความบรรดาอิหม่ามของเหล่าชีอะห์ แต่เป็นข้อยืนยันจากอุลามาอ์ของชีอะห์ ในตำราของพวกเขาเอง ซึ่งสามารถตรวจสอบจากตำราของชีอะห์ชื่อ อัลอิรชาด ของเชคมุฟีด หน้าที่ 155,194,302,354 หรือ มะกอติล-อัตตอลีบีน ของอบีฟัรญ์ อัลอัศบะฮานีย์ อัชชีอีย์ หน้าที่ 84,91,188,561,562
เมื่อเราได้เห็นสายสัมพันธ์อันแนบแน่นของบรรดาอิหม่ามเหล่าชีอะห์อิหม่ามสิบสองกับบุคคลที่ชีอะห์ด่าประณาม จึงมีข้อกังขาว่า ทำไมเหล่าชีอะห์อิหม่ามสิบสองถึงมีพฤติกรรมที่สวนทางกับบรรดาอิหม่ามที่พวกเขาประกาศว่าจะเจริญรอยตามเช่นนี้เล่า หรือว่าคำประกาศของพวกเขาเป็นเพียงฉากหน้าที่เอามาตบตาหลอกลวงคนทั้งโลก แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว บรรดาอิหม่ามของเหล่าชีอะห์นั้นไม่ได้มีคติใดๆ กับท่านอบูบักร์,ท่านอุมัร,และท่านอุสมานเลย แต่ที่ทุจริตคิดชั่วก็คือเหล่าชีอะห์อิหม่ามสิบสองนั่นเอง
สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.