ลัทธิชีอะห์อิหม่ามสิบสองอ้างว่า ท่านนบีได้ประกาศแต่งตั้งให้ท่านอาลีดำรงตำแหน่งคอลีฟะห์สืบต่อจากท่านที่ฆ่อดีรคุม ต่อหน้าบรรดาศอฮาบะห์เป็นจำนวนมาก แต่เรากลับไม่พบวี่แววหรือร่องรอยจากปากคำของท่านอาลีที่จะยืนยันในเรื่องคำสั่งแต่งตั้งนี้
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อท่านอบูบักร์ขึ้นดำรงคอลีฟะห์ต่อจากท่านนบี ท่านอาลีก็เป็นหนึ่งในผู้ให้สัตยาบันต่อท่านอบูบักร์ และเมื่อท่านอุมัร ขึ้นดำรงตำแหน่งคอลีฟะห์ ท่านอาลีก็เป็นหนึ่งในผู้ให้สัตยาบันด้วยเช่นเดียวกัน และหลังจากท่านอุมัรถูกฆ่าตาย ท่านอุสมานได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งคอลีฟะห์ ท่านอาลีก็เป็นหนึ่งในผู้ให้สัตยาบันต่อท่านอุสมานอีกด้วย
เพราะเหตุใดท่านอาลีและบุตรชายของท่านหรือผู้ที่ให้การสนับสนุนท่านจึงไม่ยอมทักท้วง หากมีคำสั่งแต่งตั้งจากท่านนบีไว้แล้วดั่งที่เหล่าชีอะห์กล่าวอ้าง แต่หากเหล่าชีอะห์จะยืนยันตามคำโพทนาที่ว่า บรรดาศอฮาบะห์ได้ตกมุรตัดทั้งหมดหลังจากท่านนบีเสียชีวิตเหลืออยู่เพียงสามท่านเท่านั้นคือ มิกด๊าด บินอัสวัด,อบูซัรริน อัลฆิฟารีย์ และท่านซัลมาน อัลฟารีซีย์ เราก็จะถามชีอะห์ว่า ศอฮาบะห์ทั้งสามท่านที่ชีอะห์เชื่อว่ายังเป็นมุสลิมอยู่นี้ก็ไม่ได้ทักท้วง หรือแสงบทบาทในการรักษาคำสั่งของท่านนบีเลยหรือ
แต่หากชีอะห์จะอ้างว่า ในช่วงเวลานั้นท่านอาลีมีผู้ให้การสนับสนุนน้อย ยังไม่มีกำพลเพียงพอที่จะต่อกรเพื่อทวงสิทธิ์ในการเป็นคอลีฟะห์ต่อจากท่านนบี คำอ้างนี้ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะหลังจากที่ท่านอุสมาน บินอัฟฟาน ถูกสังหารนั้น ท่านอาลีก็มีจังหวะและโอกาสอยู่มากโข โดยบรรดาผู้คนได้แห่แหนไปที่บ้านของท่าน เพื่อสนับสนุนและร้องขอให้ท่านดำรงตำแหน่งคอลีฟะห์ แต่ท่านอาลีกลับบ่ายเบี่ยงและปฏิเสธโดยกล่าวว่า دعوني والتمسوا غيري ความหมายคือ พวกเจ้าทั้งหลายจงปล่อยฉันและจงไปหาคนอื่นนอกจากฉันเถิด (นะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ หน้าที่ 136,366,367,322)
ข้อความข้างต้นนี้เป็นคำพูดของท่านอาลีเอง และจากตำราของชีอะห์เอง ดังนั้นชีอะห์จึงต้องอธิบายให้ได้สมจริงตามที่อ้างว่า มีคำสั่งแต่งตั้งไว้แล้ว แต่ไม่มีจังหวะและโอกาส
แต่เมื่อจังหวะและโอกาสก็มีแล้ว ผู้ให้การสนับสนุนก็พร้อมแล้ว ทำไมท่านอาลีจึงปฏิเสธอีกเล่า นี่เท่ากับเหล่าชีอะห์ได้กล่าวหาท่านอาลีว่า ทรยศ,หักหลัง และขัดคำสั่งแต่งตั้งของท่านนบีมิใช่หรือ
สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.