เป็นความภาคภูมิใจอีกประการหนึ่งของเหล่าชีอะห์ อิหม่ามสิบสอง ที่ได้อ้างข้อความต่อไปนี้เป็นหลักฐาน
مثل أهل بيتي فيكم مثل سفينة نوح من ركبها نجا ومن تخلف عنها غرق
“อุปมาครอบครัวของฉันในหมู่พวกเจ้า ดั่งสำเภานัวฮ์ ผู้ใดโดยสารมันก็ปลอดภัย และผู้ผินหลังให้ก็จมน้ำ”
แม้เราจะยังไม่ได้พิสูจน์สถานะภาพข้อความข้างต้นนี้ว่า เป็นคำพูดของท่านนบีจริงหรือไม่ แต่เราก็สามารถที่จะทราบได้ว่า เหล่าชีอะห์อิหม่ามสิบสองได้นำเอาข้อความนี้มาตบตาผู้คน เนื่องจากพวกเขาอ้างว่า จะตามอะฮ์ลุ้ลบัยต์ ที่หมายถึงครอบครัว,วงศ์วานของท่านนบี แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว พวกเขาทิ้งครอบครัวของท่านนบีแล้วเชิดชูครอบครัวของท่านอาลีแทน อีกทั้งพวกเขายังไม่ได้ตามท่านอาลีและครอบครัวของท่านอีกต่างหาก
หากกล่าวว่า ผู้ที่ยึดอะห์ลุ้ลบัยต์แล้วจะปลอดภัยเหมือนดั่งอยู่ในสำเภานัวฮ์ ก็ทำให้เราประหลาดใจเหลือเกิน เนื่องจากในสำเภาที่ชื่อชีอะฮ์ลำนี้ มีบรรดาผู้ที่อ้างตนว่าตามอะห์ลุ้ลบัยต์ อยู่หลายก๊ก หลายเหล่า ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็อ้างว่า พวกเขาก็ปลอดภัยเหมือนกัน ทั้งๆที่พวกเขามีความเชื่อและการปฏิบัติที่แตกต่างกัน หรือว่าสำเภาลำนี้ถูกจดลิขสิทธิ์ไว้สำหรับเหล่าชีอะฮ์อิหม่ามสิบสองแต่เพียงผู้เดียว ส่วนชีอะฮ์กลุ่มอื่นผู้ประกาศตนว่ารักและตามอะฮ์ลุ้ลบัต์ไม่มีสิทธิ์ได้รับความปลอดภัย
เมื่อเราตรวจสอบสถานะภาพของข้อความข้างต้นแล้วก็พบว่า เป็นการกล่าวเท็จต่อท่านนบี และบรรดาศอฮาบะห์ที่ถูกนำชื่อมาอ้างในสายรายงานนี้ เช่น อบูซัรริน อัลฆิฟารีย์, อับดุลลอฮ์ อิบนิ อับบาส, อิบนุลซุบัยร์ และ อบูสะอี๊ด อัลคุตรีย์ ซึ่งเมื่อเราเห็นรายชื่อของบรรดาศอฮบะห์ที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้รายงานเรื่องนี้แล้ว ยิ่งทำให้เกิดความฉงนว่า เพระเหตุใดศอฮาบะห์เหล่านี้จึงอยู่นอกสำเภา ทั้งๆที่พวกเขารายงานเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
ส่วนสายรายงานและบรรดาผู้รายงานเรื่องนี้ ถูกบันทึกอยู่อย่างกระจัดกระจายในตำราหลายเล่ม เช่น บันทึกของอัลบัซซาร, อัตฏ๊อบรอนีย์, อบูนุอัยม์, และอัลมุสตั๊ดร๊อก เป็นต้น
แต่สายรายงานทั้งหมดในแต่ละบันทึกประกอบด้วยผู้รายงานที่เชื่อถือไม่ได้ทั้งสิ้นดังนี้
1 – อัลฮะซัน บิน อบีญะอ์ฟัร อัลญุฟรีย์
อิบนุ มะดีนีย์ กล่าวว่า ฏออีฟ ท่านอิหม่ามอะห์หมัด และอัลนะซาอีย์ ถือว่าเขาฏออีฟ อิหม่ามบุคอรี กล่าวว่า มุงกัร, (มีซารุ้ลเอียะอ์ติดาล เล่มที่ 1 หน้าที่ 482)
อัลฮัยซะมีย์ กล่าวว่า มัตรู๊ก ( มัจมะอ์ อัสซะวาอิด 4/163)
2 – อับดุลลอฮ์ บิน ดาฮิร
เป็นหนึ่งในบรรดาผู้มีความผิดพลาดมาก จนออกนอกกรอบการอ้างอิงเป็นหลักฐาน (อัลมัจญรูฮีน ญุซที่ 2 หน้าที่ 10)
อุกอยลีย์ กล่วว่า เขาเป็น รอฟิดีย์ที่โสโครก หมายถึง ผู้สุดโต่งในลัทธิชีอะฮ์ที่ด่าประณามบรรดาภรรยาและศอฮาบะห์ของท่านนบี (มีซานุ้ลเอียะอ์ติดาล เล่มที่ 2 หน้าที่ 416)
อัลฮัยซะมีย์ กล่าวว่า มัตรู๊ก (มัจมะอ์ อัสซะวาอิด 4/163)
3 – อิบนุละฮีอะห์
อับดุลลอฮ์ อิบนุ ละฮีอะห์ บิน อุ๊กบะห์ อัลฮัดรอมีย์ อัลฆอฟีกีย์ อดีตผู้พิพากษาของอียิปต์ มีฉายาว่า อบูอับดิลเราะห์มาน เสียชีวิตในปีที่ 174 ฮิจเราะห์ศักราช
คำรายงานของเขาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหมู่นักวิชาการเป็นอย่างมาก เนื่องเขามีความสับสนในการรายงาน และก่อนการเสียชีวิต 4 ปี เขาได้เผาทำลายตำราบันทึกฮะดีษของเขาเอง (อัลมัจญรูฮีน ญุชที่ 2 หน้าที่ 11/มีซานุ้ลเอียะอ์ติดาล เล่มที่ 2 หน้าที่ 475)
4 – มุฟัฏฏอล บิน ซอและห์
อิหม่ามบุคอรี และนักฮะดีษท่านอื่นๆ กล่าวว่า มุงกัร (มีซานุ้ลเอียะอ์ติดาล เล่มที่ 4 หน้าที่ 167)
5 – อาลี บินเซด บิน ญุดอาน
บรรดานักวิชาการมีความเห็นแตกต่างกันในสถานภาพของเขา ถูกรายงานจาก ยะซีด บิน ซุรอยอ์ ว่า อาลี บิน เซด ผู้นี้เป็น รอฟีดีย์ (ผู้สุดโต่งในลัทธิชีอะห์ ที่ด่าประณามบรรดาภรรยาและศอฮาบะห์ของท่านนบี) และอะห์หมัด อัลอัจญลีย์ กล่าวว่า เขา ตะชัยยัวอ์ หมายถึงผู้ฝักใฝ่ในลัทธิชีอะห์, อิหม่ามบุคอรี และอบู ฮาติม กล่าวว่า นำมาเป็นหลักฐานไม่ได้, และอิบนุ อุยัยนะห์ ถือว่าเขา ฏออีฟ (มีซานุ้ลเอียะอ์ติดาล เล่มที่ 3 หน้าที่ 127-128)
6 – กลุ่มผู้รายงานซึ่งไม่เป็นที่รู้จัก
นอกจากนี้ในสายรายงานที่อ้างถึง อบูสะอี๊ด อัลคุดรีย์ นั้น ท่านฮัยซะมีย์ ระบุว่า มีผู้รายงานกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่เป็นที่รู้จัก (มัจมะอ์ อัสซาวาอิด 4/163) ซึ่งในทางวิชาฮะดีษจะเรียกว่า มัจญ์ฮูล หมายถึงบุคคลที่ไม่มีผู้ใดทราบประวัติของเขา ถือว่าเป็นบุคคล ฏออีฟ
ด้วยเหตุนี้ ถ้อยคำที่อ้างว่า “ครอบครัวของฉันเป็นดั่งสำเภานัวฮ์” จึงไม่ได้เป็นคำพูดของท่านนบี และไม่มีรายงานที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่บทเดียว
สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.