นักวิชาการซุนนะห์สองมาตรฐานหรือชีอะห์ประจานความเขลาของตัวเอง
ข้อความด่านล้างนี้ ชีอะห์ผู้ใช้ชื่อ l-umar ได้โพสต์ไว้ในเวปมุสลิมไทยว่า
เราพบในเวบชื่อ อิสลามเวบ ตามที่อยู่นี้
http://www.islamweb.net/hadith/display_hbook.php?hflag=1&bk_no=515&pid=322051
ทางเวบได้ยกหะดีษมัรฟู๊อฺบทหนึ่งมาตรวจสอบ เป็นหะดีษลำดับที่ 35
أَخْبَرَنَا عُمَرُ الْكَاغَدِيُّ ، حَدَّثَنَا أَحْمَدُ بْنُ يَحْيَى الصُّوفِيُّ ، حَدَّثَنَا يَحْيَى بْنُ الْحَسَنِ بْنِ الْفُرَاتِ الْقَزَّازُ ، حَدَّثَنَا عَبْدُ اللَّهِ بْنُ مُنْتَصِرٍ ، عَنْ أَبِي هَارُونَ الْعَبْدِيِّ ، عَنْ أَبِي سَعِيدٍ الْخُدْرِيِّ قَالَ : نَظَرَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِلَى عَلِيٍّ عَلَيْهِ السَّلامُ فَقَالَ : " هَذَا وَشِيعَتُهُ هُمُ الْفَائِزُونَ يَوْمَ الْقِيَامَةِ "
( หะดีษที่มีสายรายงานสืบถึงท่านรอซูลฯ)
อุมัร อัลกาเฆาะดีได้บอกเล่าแก่เรา อะหมัด บินยะห์ยา อัซ-ซูฟีเล่าให้เราฟัง ยะห์ยา บินอัลฮาซัน บินอัลฟุรอต อัลก็อซซ๊าซเล่าให้เราฟัง อับดุลลอฮ์ บินมุนตะศิรเล่าให้เราฟัง จากอบีฮารูน อัลอับดี จากท่านอบีสะอีด อัลคุดรี เล่าว่า : ท่านรอซูลุลลอฮ์ (ศ) ได้มองไปที่ท่านอะลี(อ) พลางกล่าวว่า ชายคนนี้ และชีอะฮ์ของเขา คือบรรดาผู้ประสบความสำเร็จ ในวันกิยามะฮ์
ฮุก่มของหะดีษบทนี้คือ :
الحكم المبدئي: إسناد شديد الضعف فيه أبو هارون العبدي وهو متروك الحديث.
สายรายงานหะดีษนี้ “ ดออีฟมาก “ เพราะมีนักรายงานชื่อ “ อบูฮารูน อัลอับดี “ ซึ่งเขาผู้นี้ มัตรู๊ก หะดีษ.
สรุป
เพราะ “ อบูฮารูน อัลอับดี “ คนเดียวทำให้หะดีษชีอะฮ์อะลีบทนี้ ดออีฟ
ทีนี้ขอให้ท่านมาดูหะดีษบทอื่นที่อบูฮารูน อัลอับดี รายงานบ้าง
หนังสือ มุสนัดอิหม่ามอะหมัด หะดีษที่ 11683
ฉบับตรวจทานโดยเชคชุเอบ อัลอัรนะอูฏ
عَنْ أَبِي هَارُونَ الْعَبْدِيِّ وَمَطَرٌ الْوَرَّاقُ عَنْ أَبِي الصِّدِّيقِ النَّاجِيِّ عَنْ أَبِي سَعِيدٍ الْخُدْرِيِّ قَالَ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ تُمْلَأُ الْأَرْضُ جَوْرًا وَظُلْمًا فَيَخْرُجُ رَجُلٌ مِنْ عِتْرَتِي يَمْلِكُ سَبْعًا أَوْ تِسْعًا فَيَمْلَأُ الْأَرْضَ قِسْطًا وَعَدْلًا تعليق شعيب الأرنؤوط : حديث صحيح
จากอบีฮารูน อัลอับดี และมะฏ็อรอัลวัรรอก จากท่านอบีซิดดี๊ก อันนาญี จากอบีสะอีด อัลคุดรี เล่าว่า ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า ...เชคชุเอบ อัลอัรนะอูฏีกล่าวว่า หะดีษนี้ เศาะหิ๊หฺ ( ถูกต้อง )
หนังสือ ซอฮีฮุ วะดออีฟุ สุนันอิบนิมาญะฮ์ หะดีษที่ 247 ฉบับตรวจทานโดยเชค มุฮัมมัด นาซิรุดดีน อัลบานี
عَنْ أَبِى هَارُونَ الْعَبْدِىِّ عَنْ أَبِى سَعِيدٍ الْخُدْرِىِّ عَنْ رَسُولِ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- قَالَ « سَيَأْتِيكُمْ أَقْوَامٌ يَطْلُبُونَ الْعِلْمَ فَإِذَا رَأَيْتُمُوهُمْ فَقُولُوا لَهُمْ مَرْحَبًا مَرْحَبًا بِوَصِيَّةِ رَسُولِ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- وَاقْنُوهُمْ ». قُلْتُ لِلْحَكَمِ مَا اقْنُوهُمْ قَالَ عَلِّمُوهُمْ.. تحقيق الألباني :حسن ،
จากอบีฮารูน อัลอับดี จากท่านอบูสะอีด อัลคุดรี จากท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) กล่าวว่า...เชคอัลบานี กล่าวว่า หะดีษนี้ ฮาซัน ( ดี )
คำถามคือ มาตรฐานในการระบุสถานะของ นายอบูฮารูน อัลอับดีคืออะไร
หะดีษบทหนึ่งท่านบอกว่า อบีฮารูน อัลอับดี มีสถานะรายงาน เศาะหิ๊หฺ
หะดีษบทหนึ่งท่านบอกว่า อบีฮารูน อัลอับดี มีสถานะรายงาน ฮาซัน
หะดีษบทหนึ่งท่านบอกว่า อบีฮารูน อัลอับดี มีสถานะรายงาน ดออีฟ
โปรดพิจารณาเองเถิดว่า พวกวาฮาบีได้เล่นลิ้นกับหะดีษของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)อย่างไร ?
………………………………………………………………………….
ข้อความข้างต้นนี้ เราไม่ทราบว่าเกิดจากการจงใจของชีอะห์ที่จะกล่าวร้ายต่อนักวิชการซุนนะห์ ด้วยถ้อยคำปิดท้ายที่ว่า “พวกวะฮาบีได้เล่นลิ้นกับฮะดีษของท่านรอซูลุ้ลลอฮ์” หรือเป็นเพราะความเขลาของชีอะห์เองที่ไม่เข้าใจกระบวนการตรวจสอบสถานะภาพฮะดีษ ดังนั้นก่อนที่เราจะชี้แจงข้อความ ก็อยากจะแนะนำพื้นฐานวิชาฮะดีษเบื้อต้นให้ได้รับทราบดังนี้
ประการที่แรก
คำว่า حديث مرفوع ที่ชีอะห์แปลว่า “หะดีษที่มีสายรายงานสืบถึงท่านรอซูลฯ” นั้น คำพูดนี้ไม่ได้รับรองสถานะของฮะดีษว่าถูกต้อง หากแต่เป็นการกล่าวถึงต้นสายของฮะดีษเท่านั้น คือ
ฮะดีษบทใดที่อ้างถึงท่านนบี จะถูกเรียกว่า ฮะดีษมัรฟัวอ์
ฮะดีษบทใดสืบถึงศอฮาบะห์ จะถูกเรียกว่า ฮะดีษเมากูฟ
ฮะดีษบทใดสืบถึงตาบีอีน จะถูกเรียกว่า ฮะดีษมั๊กตัวอ์
ซึ่งฮะดีษทั้งสามประเภทคือ มัรฟัวอ์ หรือ เมากูฟ และ มั๊กตัวอ์ เป็นได้ทั้งศอเฮียะห์,ฮะซัน, ฏออีฟ และเมาฏัวอ์ จนกว่าจะสอบถานสภาพความถูกต้องเสียก่อน และฮะดีษต้นแรกที่ชีอะห์เสนอนั้น เป็นฮะดีษประเภท มัรฟัวอ์ แต่ ฏออีฟ
ประการที่สอง
การตรวจสอบสถานภาพของฮะดีษมีหลักใหญ่ๆ อยู่สามวิธีด้วยกันคือ
ตรวจสอบสายรายงาน
ตรวจสอบตัวผู้รายงาน
ตรวจสอบเนื้อหาคำรายงาน
การกล่าวว่า สายรายงานถูกต้อง ก็ไม่ได้หมายถึงฮะดีษบทนั้นจะศอเฮียะห์เสมอไป จนกว่าจะตรวจสอบตัวผู้รายงานและเนื้อหาคำรายงานเสียก่อน
ฮะดีษทั้งสามบทที่ชีอะห์นำมาแสดงนี้ มีเนื้อหาที่ต่างกัน หมายถึงกล่าวกันคนละเรื่อง และสายรายงานก็ต่างกันคือคนละสาย แต่ในสายรายงานทั้งสามนั้นมีผู้รายงานที่ชื่อ อบี ฮารูณ อัลอับดี อยู่ด้วย
อบีฮารูณ อัลอับดี
มีชื่อจริงว่า อุมาเราะห์ อิบนุ ญุวัยน์ มีถิ่นฐานอยู่ที่เมือง บัศเราะห์ เสียชีวิตปีที่ 134 ฮิจญเราะห์ศักราช อบีฮารูณ อัลอับดี มักจะรายงานฮะดีษโดยอ้างว่า ได้ยินมาจากอบีสะอี๊ด อัลคุดรีย์ แต่เขากลับไม่ถูกบันทึกในทำเนียบของการเป็นศิษย์ของอบีสอี๊ด
ท่านอิบนุ ฮิบบาน กล่าวว่า เขารายงานจาก อบีสะอี๊ด โดยที่ไม่ได้ยินมาจาก อบีสะอี๊ด
ฮัมมาด บิน เซด ให้สถานะโกหกแก่เขา
อิบนุ มะอีน กล่าวว่า ฏออีฟ
อัลนะซาอีย์ กล่าวว่า มัตรู๊ก
อัลดารุกุฏนีย์ กล่าวว่า เขาเปลี่ยนสีไปได้เรื่อยๆ แต่ความจริงเขาเป็นชีอะห์
ในข้อที่ชีอะห์ได้ก๊อปจากเว็บลิ้งค์มาโพสต์นั้น แจ้งว่า الحكم المبدئي แปลว่า “คำตัดสินเบื้องต้น” นั่นแสดงว่า การตัดสินสายรายงานและตัวผู้รายงานที่ชื่อ อบีฮารูณ อัลอับดี เป็นคำตัดสินขั้นพื้นฐานเท่านั้นเอง หากเราเจาะลึกให้มากกว่านี้ ก็จะพบข้อบกพร่องของสายรายงานและผู้รายงานคนอื่นๆ อีก แต่เราก็จะละไว้ เนื่องจากชีอะห์ได้หยิบเฉพาะประเด็นของ อบีฮารูณ อัลอับดี ในสายรายงานนี้มาวิจารณ์โดยนำไปเปรียบเทียบกับสายรายงานอื่น แล้วใส่ความนักวิชาการซุนนะห์ ด้วยความเขลาของตัวเอง
คำรับรองสถานภาพฮะดีษ
เราจะเห็นคำวิจารณ์และคำรับรองฮะดีษทั้งสามบทข้างต้นนี้แตกต่างกันคือ
ต้นที่หนึ่ง วิจารณ์สายรายงานและตัวผู้รายงานว่า ฏออีฟ
ต้นที่สอง รับรองสถานะภาพตัวบทฮะดีษว่าศอเฮียะห์ แต่ไม่รับรองผู้ตัวผู้รายงาน
ต้นที่สาม รับรองสถานะภาพตัวบทฮะดีษว่าฮะซัน แต่ไม่ได้รับรองตัวผู้รายงาน
อย่างนี้คือความสับสนที่ผู้รู้ของชีอะห์แยกแยะไม่ออก ซึ่งจะอธิบายให้เข้าใจดังนี้
การกล่าวรับรองฮะดีษท่านอัรนะอูฏ และอัลบานีย์ ในต้นที่สองและสามนั้น ไม่ใช่คำรับรองตัวผู้รายงานที่ชื่อ อบี ฮารูณ อัลอับดี ว่าเขาเป็นคนศอเฮียะห์หรือฮาซัน ดังนั้นสถานะภาพของผู้รายงานคนนี้ก็ยังฏออีฟอยู่เหมือนเดิม
ถ้าเช่นนั้น เพราะเหตุใดฮะดีษที่มีผู้รายงานฏออีฟ จึงถูกให้สถานะว่าเป็นศอเฮียะห์และฮะซัน
คำตอบก็คือ ฮะดีษบทใดที่มีผู้รายงานฏออีฟ ฮะดีษบทนั้นจะถูกตัดสินว่า เป็นฮะดีษฏออีฟด้วย ไม่ว่าจะมีกี่สายรายงานก็ตาม หรือผู้รายงานมีจำนวนเท่าใดก็ตาม จะถือว่าเป็นฮะดีษฏออีฟทั้งหมด นอกจากฮะดีษที่รายงานในเรื่องนั้น มีฮะดีษศอเฮียะห์ หรือ ฮะดีษฮะซันบทอื่น มารายงานสำทับ ที่เรียกในทางภาษาฮาดีษว่า “มุตาบะอห์” หรือมีฮะดีษที่มีเนื้อหาสอดคล้องมาสนับสนุน ที่เรียกในทางภาษาฮาดีษว่า “ซะวาฮิด” ก็จะทำให้ฮะดีษฏออีฟในบทดังกล่าว ถูกเลื่อนสถานะเป็นฮะซันหรือ ศอเฮียะห์ ตามไปด้วย อย่างนี้เขาเรียกว่าดีได้เพราะสายอื่น ในทางภาษาฮะดีษจะมีชื่อเรียกเฉพาะว่า “ศอเฮียะห์ลีฆอยริฮี” และ “ฮะซันลิฆอยริฮี”
ดังนั้นคำรับรองสถานภาพตัวบทฮะดีษในต้นที่สองและสามของท่าน อัรนะอูฏ และอัลบานีย์ ที่มี “มุตาบะอะห์” และ “ชะวาฮิด” นั้นจึงไม่ใช่คำรับรองตัวผู้รายงานที่ชื่อว่า อบี ฮารูณ อัลอับดี ว่าเป็นคนฮะซันหรือศอเฮียะห์ แต่อย่างใด
เมื่อชีอะห์ไม่เข้าใจหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาฮะดีษ แล้วใส่ร้าย,ปรักปรำนักวิชาการซุนนะห์ว่า “เล่นลิ้นกับฮะดีษของท่านรอซูลุ้ลลอฮ์” จึงอยากให้ชีอะห์ได้ทบทวนวิชาฮะดีษก่อนจะแสดงความเขลาออกมา และจงระวัง !! การโกหกต่อผู้ใดก็ไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการโกหก,กล่าวเท็จต่อท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม
مَنْ كَذَبَ عَلَيَّ مُتَعَمِّداً فَلْيَتَبَوَّأ مَقْعَدَهُ مِنَ النَّارِ
“ผู้ใดเจตตนากล่าวเท็จต่อฉันก็จงเตรียมที่นั่งสำหรับเขาในนรก” มุตตะฟะกุนอะลัยฮิ
สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.