หลายต่อหลายครั้งที่ผมต้องคอยตอบคำถามที่ส่งเข้ามาเป็นระยะๆ เนื่องจากการแพร่ระบาดของลัทธิชีอะห์ อิหม่ามสิบสอง ตามเวบไซต์ต่างๆ ที่พวกเขาพยามแสดงหลักฐานเท็จเพื่อด่าทอ กล่าวหา ใส่ร้ายโจมตี ท่านอบูบักร์, ท่านอุมัร, บรรดาภรรยาของท่านนบี และศอฮาบะห์ท่านอื่นๆ
เนื่องจากในสังคมมุสลิมบ้านเรา ยังมองไม่เห็นถึงพิษภัยที่กำลังคุกคามอยู่ขณะนี้ ทำให้หลายคนวางเฉย ไม่รู้วิธี และไม่หาวิธีป้องกัน หรือไม่ทราบมาตรฐานของการพิจารณาเรื่องเท็จเหล่านั้น
และต่อไปนี้ ก็เป็นเรื่องเท็จอีกประการหนึ่งที่ใส่ความท่านอบูบักร์ว่า ได้สารภาพก่อนตายว่า ได้บุกพังเผาบ้านของท่านหญิงฟาติมะห์ (ขออัลลอฮ์ทรงปกป้องบรรดามุสลิมจากความเท็จเหล่านี้ด้วยเถิด)
..................................................................................................
ชีอะห์กล่าว่า
นี่คือเรื่องราวคำสารภาพจากปากของ อะบูบักร์ก่อนที่จะเสียชีวิตต่อสิ่งชั่วร้ายที่ได้กระทำกับ ฟาฏีมะฮ์บุตรีของท่านศาสดา(ศ) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่อุลามาซุนนีพร้อมด้วยสายรายงานที่มากมายได้บันทึก เอาไว้ในตำราของตนเอง
เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่จะทำให้เหล่าวะฮาบีทั้งหลายได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นว่า แท้จริงแล้ว คอลีฟะฮ์อะบูบักร์นั้นมีความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์วงศ์วานลูกหลานของท่าน ศาสดา(ศ)มากมายขนาดใหน? ด้วยเพราะการแสดงออกซึ่งความรักอันหฤโหดและต่ำช้าของ ศอฮาบะฮ์บางคนและคอลีฟะฮ์กลุ่มชนชั้นปกครองที่มีต่อ อะฮ์ลุลบัยต์ลูกหลานศาสดาแบบนี้แหละ ที่ทำให้เหล่าอุลามาวะฮาบีจึงออกฟัตวาห้ามไม่ให้ใครพูดถึงความชั่วร้ายของศอ ฮาบะฮ์
أنا حميد أنا عثمان بن صالح، حدثني الليث بن سعد بن عبد الرحمن الفهمي، حدثني علوان، عن صالح بن كيسان، عن حميد بن عبد الرحمن بن عوف، أن أباه عبد الرحمن بن عوف، دخل على أبي بكر الصديق رحمة الله عليه في مرضه الذي قبض فيه ... فقال [أبو بكر] : « أجل إني لا آسى من الدنيا إلا على ثَلاثٍ فَعَلْتُهُنَّ وَدِدْتُ أَنِّي تَرَكْتُهُنَّ، وثلاث تركتهن وددت أني فعلتهن، وثلاث وددت أني سألت عنهن رسول الله (ص)، أما اللاتي وددت أني تركتهن، فوددت أني لم أَكُنْ كَشَفْتُ بيتَ فاطِمَةَ عن شيء، وإن كانوا قد أَغْلَقُوا على الحرب
อับดุล เราะฮ์มาน บินเอาฟ์เล่าว่าได้ไปเยี่ยมอะบูบักร์ขณะที่นอนป่วยใกล้จะเสียชีวิต หลังจากที่ได้คุยสารทุกสุขดิบกันนิดหน่อยอะบูบักร์ก็ได้พูดขึ้นมาว่า
“ใน ตลอดช่วงเวลาชีวิตของฉัน มีสามอย่างที่ฉันได้กระทำมัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันต้องเสียใจมาตลอดจากการกระทำนั้น และฉันคิดเสมอว่าไม่น่าที่จะทำมันเลย หนึ่งในนั้นก็คือการบุกไปยังบ้านของฟาฏีมะฮ์(อ)บุตรีแห่งศาสดา หากย้อนเวลาได้ฉันจะไม่บุกไปเผาพังประตูบ้านของนาง ถึงแม้ว่าการปิดประตูบ้านของนางนั้นจะเป็นการประกาศสงครามกับฉันก็ตาม...”
…………………………………………………….
ไม่สบายใจกับอรัมภบทของชีอะห์ที่ด่าทอ ประณามบรรดาคอลีฟะห์และบรรดาศอฮาบะห์ของท่านนบีว่า หฤโหดและต่ำช้า พวกเขาอาจหาญที่จะเผยตัวตนของพวกเขาให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบ แต่คราใดก็ตามที่เราทักท้วง พวกเขาก็จะบอกว่า ไม่ได้ด่า
ดูเหมือนการโกหกตะลบตะแลงจะเป็นเรื่องธรรมดาของพวกเขาเหลือเกิน
ถ้าเราบอกว่า ท่านเอาเรื่องเท็จมากล่าวอ้าง พวกเขาก็จะปัดความรับผิดชอบว่า ไม่ใช่เรื่องของชีอะห์เพราะมีในตำราของชาวซุนนะห์เอง
พวกเขาอ้างตำราของชาวซุนนะห์ แต่ไม่ยอมเอากระบวนการตรวจสอบตามมาตรฐานของชาวซุนนะห์มาพิจารณา ทำให้คนที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองหวั่นวิตกไปตามๆกัน
เรื่องคำสารภาพของอบูบักร์ว่าบุกเผาบ้านฟาติมะห์นี้ ถูกบันทึกไว้ใน อัลมัวอ์ญัม อัลกะบีร ของอัฏต๊อบรอนีย์ 1/17 ลำดับที่ 41 หลังจากนั้น เรื่องนี้ก็ได้ถูกนำไปรายงานต่อๆกันในตำราอื่นๆอีกหลายเล่ม ทำให้ดูเหมือนว่ามีหลากหลายคำรายงาน แต่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มาจากแหล่งเดียวกัน และเป็นคำรายงานของ อุลวาน บินดาวู๊ด อัลบะญลีย์ ทั้งสิ้น
เรื่องที่ชีอะห์นำมาแสดงนี้ เชื่อถือไม่ได้เลย เนื่องจาก สายรายงาน และตัวผู้รายงานมีสถานภาพดังนี้
สายรายงาน
ฮะดีษบทนี้ถูกรายงานผ่านมาทางผู้รายงานที่ชื่อ อุลวาน บิน ดาวู๊ด อัลบะญะลีย์ โดยที่สายรายงานอยู่ในสภาพ “มุฏตอริบ” คือสับสนในการอ้างว่า เขาได้ยินเรื่องนี้มาจากใครกันแน่
และผู้ที่รายงานเรื่องนี้ในระดับศอฮาบะห์ที่อ้างถึง คือใครกันระหว่าง อับดุลเราะห์มาน บิน เอาวฟ์ กับ ท่านอบูบักร์ อัศศิดดี๊ก ซึ่งจะเรียงลำดับของสายรายงานให้เห็นดังนี้
1 – อุลวาน ฟังจาก ฮุมัยม์ บิน อับดิรเราะห์มาน บิน ฮุมัยด์ จากศอและห์ บิน กัยซาน จากฮุมัยด์ บิน อับดิรเราะห์มาน บิน เอาวฟ์, จากอับดุลเราะห์มาน บิน เอาวฟ์
2 – อุลวาน ฟังจาก (กระโดดข้ามช่วงนี้) จากศอและห์ บิน กัยซาน จากฮุมัยด์ บินอับดิรเราะห์มาน บินเอาวฟ์, จากอับดุลเราะห์มาน บิน เอาวฟ์ (สายรายงานนี้ที่ชีอะห์นำเสนอ)
3 – อุลวาน ฟังจาก (กระโดดข้ามช่วงนี้) จาก ศอและห์ บิน กัยซาน จาก ฮุมัยด์ บิน อับดิลเราะห์มาน จากอับดุบดุลเราะห์มาน จาก อบีบักร์
นอกจากสายรายงานจะสับสนแล้ว ยังมีการรายงานกระโดดข้ามผู้รายงานอีกคนหนึ่งไป ดังที่วงเล็บให้ดู ซึ่งในภาษาฮะดีษเรียกว่า “มุรซัล” และเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ฮะดีษบทนี้อยู่ในสถานะ ฏออีฟ
ท่านอุก็อยลีย์ กล่าวว่า “ฮะดีษนี้ไม่มีสายรายงานอื่นมาสำทับ นอกจากสายรายงานของอุลวานเพียงลำพังเท่านั้น” (ดูอัลฏุอะฟาอ์ ของอุก็อยลีย์ 3/419 ลำดับที่ 1461 และมีซานุ้ลเอียะอ์ติดาล เล่มที่ 3 หน้าที่ 108 -110 ลำดับที่ 5763
ดังนั้นฮะดีษบทนี้ นอกจากจะเป็นสายรายงานเดี่ยวแล้ว ยังมีความสับสนของสายรายงานอีกหลายกรณีตามที่แสดงให้เห็น และเป็นประเด็นหนึ่งที่นักวิชาการชี้สถานะว่าเป็น ฮะดีษบทนี้ฏออีฟ มุตฏอริบ และมุรซัล
ผู้รายงาน
นอกจากฮะดีษบทนี้จะมีปัญหาทางสายรายแล้ว ตัวผู้รายงานก็ถูกวิจารณ์ด้วยเช่นกันดังนี้
อุลวาน บิน ดาวู๊ด หรือ อุลวาน บิน ซอและห์ อัลบะญะลีย์ เป็นคนรับใช้ของ ญะรีร บิน อับดิลลาฮ์ เสียชีวิตในปีที่ 180 ฮิจเราะห์ศักราช
“ท่านอิหม่ามบุคอรี วิจารณ์ว่า อุลวาน บิน ดาวู๊ด หรือ อุลวาน บินซอและห์ ฮะดีษของเขามุงกัร
และอบู สะอี๊ด บินยูนุส ได้กล่าวว่า ฮะดีษของเขามุงกัร เช่นเดียวกัน” ลิซานุ้ลมีซาน ของอิบนิฮะญัร 4/188 ลำดับที่ 502
“อัลฮัยซะมีย์ ได้กล่าวว่า ฮะดีษบทนี้บันทึกโดย อัฏต๊อบรอนีย์ และมีผู้รายงานชื่อ อุลวาน บิน ดาวู๊ด อัลบะญะลีย์ ซึ่งเขา ฏออีฟ” มัจญ์มะอ์ อัสซะวาอิด 5/203
คงจะเป็นการเพียงพอแล้วที่เราจะกล่าวว่า เรื่อง อบูบักร์สารภาพว่าบุกเผาบ้านฟาติมะห์ เป็นนิยายที่เหล่าชีอะห์นิยมเอามาเรียกน้ำตาคนในลัทธิของตนเองเท่านั้น
สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.