السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
15 กุมภาพันธ์ 2549
ไม่บ่อยครั้งนักที่ผมจะรับเชิญไปบรรยายทางใต้ เพราะไปแต่ละครั้งก็ต้องใช้เวลาทั้งไปและกลับอย่างน้อย 3 วัน แต่จะปฏิเสธไม่ไปเลยก็ไม่ได้ กะว่าสักเดือนเว้นเดือน หรือเดือนเว้นสองเดือนค่อยไปซะที พี่น้องทางใต้ก็บ่นว่า เชิญตัวยากเหลือเกิน ขอมะอัฟจริงๆ ครับ เพราะภาระหน้าที่ทางนี้ก็มากโข แต่ไปใต้แต่ละครั้งก็ประทับใจ กับภาพที่พี่น้องกระตือรือร้นในการเรียนรู้เรื่องศาสนา มีพี่น้องจากหลายจังหวัดไกลๆ เหมารถกันมาฟังบรรยาย ดึกดื่นค่อนคืนก็ยังไม่ล่าถอย อัลฮัมดุลิ้ลลาห์
และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เช่นกัน ผมได้บรรยายที่งานของโรงเรียนดารุ้ลบิร จังหวัดสตูล เมื่อกลับมาถึงก็ต้องรีบสะสางงานที่ค้างไว้ เลยทำให้พลาดโอกาสเข้ามาคุยด้วยหลายวัน แต่ก่อนไปสตูลนั้น มีพี่น้องผู้ใช้นามว่า หวังดี ส่งข้อความมาให้อ่านกันเพลินๆว่า
อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้ ต้องไปศึกษาให้เยอะกว่านี้นะ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวเองในอาคีเราะน่ะครับ หวังดี
ปล............ จบอะไรครับบอกหน่อย เพราะไม่อยากให้ลูกไปเรียน
ผมอ่านข้อความนี้แล้วก็เผลอตัวหัวเราะ ฮึๆๆในลำคอ จนคนข้างๆถามว่า หัวเราะอะไรหรืออาจารย์..... จะมองว่าข้อความข้างต้นนี้ เป็นการเย้ยหยันถากถางก็ย่อมได้ แต่ลงท้ายว่า หวังดี ทำให้มองไปได้อีกแง่หนึ่งว่า เขาอาจจะหวังดีจริงๆ ก็ได้ รู้สึกดีครับที่เตือนสติกันเช่นนี้ อย่างน้อยก็ทำให้ผมมีมานะในการค้นคว้าเพิ่มขึ้นไปอีก และดูเหมือนว่า ผู้ใช้นามว่า หวังดี จะเป็นคนมีความรู้ และมีความรู้มากกว่าผมเสียด้วย ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าติเตียน เสียดายที่ท่านไม่บอกชื่อจริงไว้
ที่ผ่านมาผมไม่เคยอวดอ้างสรรพคุณว่าได้เรียนอะไร หรือจบอะไรมา เลยทำให้ผู้ใช้นามว่า หวังดี ไม่ทราบวุฒิของผม แต่จะรู้ไปทำไม เพราะผมเองก็ไม่เคยภูมิใจในประกาศนียบัตรของผมนักหนา จนต้องป่าวประกาศไปทั่วบ้านทั่วเมือง ผมภูมิใจในงานที่ผมทำมากกว่า ภูมิใจที่ได้เป็นทหารปกป้องศาสนาของอัลลอฮ์
ผมเคยเขียนคำนำในหนังสือว่า “ผมเกรงว่าความรู้อันน้อยนิดของผม จะเป็นสำรอกความโง่เขลา อย่างที่ผู้รู้บางท่านได้ว่ากล่าว จึงหวังว่าท่านผู้รู้ทั้งหลายจะได้ช่วยชี้แนะ เพราะผมยังเป็นคน ย่อมมีถูกและผิด และไม่กล้าที่จะกล่าวแก่ผู้อื่นว่า “ฉันดีกว่าเขา” เพราะรู้ดีว่านั่นคือคำพูดของอิบลีส ที่ยกตัวเองเพื่อประณามนบีอาดัม อีกทั้งไม่กล้าที่จะพูดท้าทายผู้ใดด้วยคำว่า “ท้าสองกิยามะห์” เพราะคำพูดเช่นนี้ผิดหลักอะกีดะห์” นี่เป็นส่วนหนึ่งในใจที่เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
“ผมยังเป็นผู้ที่ต้องศึกษาหาความรู้อีกมาก หรือพูดได้ว่าต้องศึกษาจนตาย แต่ความรู้น้อยนิดที่มีอยู่นี้ ก็พยายามถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รับทราบ เพื่อหวังรับใช้ศาสนาของอัลลอฮ์ และหวังในความเมตตาของพระองค์” และนี่เป็นอีกส่วนหนึ่งในใจที่ถ่ายทอดไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเช่นเดียวกัน
คุณ หวังดี กล่าวว่า จบอะไรครับบอกหน่อย เพราะไม่อยากให้ลูกไปเรียน นั่นแน่....ท่อนแรกก็บอกว่าหวังดี แต่ลงท้าย ปล....สะบัดช่อไปเลย ท่อนแรกหวังดี แล้วท่อนสองนี่ยังไงหว่า
ถ้าเกลียดผมก็ด่าซะให้ฉ่ำปอด จักขอบคุณหลายๆ เพราะผมจะได้รับผลบุญเยอะๆ แต่ขอความกรุณาเถิดครับ อย่าไปพาลพะโลถึงสถาบันเขาเลย เพราะเขาผลิตผู้รู้ไปทั่วโลกตั้งเยอะแยะ ถ้าจะโง่เขลาเบาปัญญาก็ผมเองนี่แหละเน้อ !!!
เกือบจะยี่สิบปีแล้วครับ ที่ผมสอนศาสนามา ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านผู้คน ผ่านเหตุการณ์หลายหลาก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยังไม่เคยเปลี่ยนก็คือ จุดยืนที่จะปกป้องและรักษาศาสนาของอัลลอฮ์ไว้ แน่นอน...การยืนในจุดนี้ ยอมมีทั้งคำชมและคำติฉินนินทา ยอมรับว่าเหนื่อย แต่ไม่เคยท้อ สักวันหนึ่งก็จะหมดรุ่นของเรา และคนรุ่นใหม่ก็จะมาสานงานต่อ ถ้าใครอะเล่มนักก็ทำงานให้เยอะ ศาสนาของอัลลอฮ์จะได้กว้างไกล หยุดห่ำหั่นกันเสียทีเถิด ไม่มีใครชนะหรอก นอกจากอิบลีส
นายฟารีด เฟ็นดี้
ขอไม่ใช้คำนำหน้าว่า อาจารย์สักวันหนึ่งเถิด....ฮึๆๆๆๆ
สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.