14 กรกฏาคม 2549
เหตุการณ์ในประเทศไทยเงียบสงบไปได้ระยะหนึ่ง ช่วงที่มีแขกบ้านแขกเมืองมาร่วมงานฉลองสิริราชาชสมบัติ ครองราชย์ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากนั้นไอกลิ่นแห่งความขัดแย้งก็เริ่มประทุขึ้นอีกเป็นระลอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอื้อฉาวของ กกต, เรื่องการยุบพรรคการเมืองใหญ่ทั้ง 2 ขั้ว, หรือวาทะของรักษาการนายกฯ ที่สร้างความตะลึงงันให้แก่คนคนไทยทั้งชาติ เรื่องผู้มีบารมี, และล่าสุดที่เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้คือ จดหมายรักข้ามทวีป จากรักษาการนายกฯของไทยถึงนายบุช จอมกร่างแห่งสหรัฐ
เมื่อเราย้อนดูประวัติศาสตร์ของชาติไทยก็จะพบว่า บรรพบุรุษของเราได้นำพาประเทศชาติรอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นมาโดยตลอด จนถึงรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี ที่พระองค์ได้ทรงใช้กุศโลบายนำพาประเทศชาติผ่านพ้นจากการเป็นเมืองขึ้น
ประเทศของเราได้ผ่านยุคล่าอณานิคมมาแล้วอย่างปลอดภัย จนลูกหลานไทยประกาศด้วยความภาคภูมิใจว่า ไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร
แม้ว่าช่วงเปลี่ยนถ่ายอำนาจในแต่ละยุคจะเกิดความผันผวนอยู่บ้าง แต่ไทยก็ยังเป็นไทยที่ยังคงรักษาเอกราชของชาติไทยเอาไว้ได้ บางครั้งเกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองที่นำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร มีการปฏิรูปการปกครอง ยกร่างรัฐธรรมนูญกันมาแล้วหลายฉบับ แต่มันก็เป็นความขัดแย้งทางอุดมการณ์,ทางความคิด ในที่สุดแล้วก็เลิกรา คนไทยไม่เคยยืมมือต่างชาติเข่นฆ่าพี่น้องไทย เพื่อแสวงอำนาจและบารมีส่วนตน
ใครที่เคยประกาศว่า "ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ"
วันนี้...นายบุชก็ไม่ใช่พ่อ...ด้วยเช่นกัน…เตือนกันไว้บ้าง
สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.