ชื่อจริงของท่านคือ มาลิก บุตรของอนัส บุตรของ อบีอามิร อัลอัศบะฮีย์ เกิดที่นครมะดีนะห์ในปีที่ 93 ฮิจเราะห์ศักราช ถือเป็นชนชั้นตาบีอีน
แม่ของท่านอนัสเป็นผู้ที่มีหัวใจผูกพันธุ์กับเรื่องวิชาการศาสนา ฉะนั้นเมื่อท่านอนัสมีอายุได้ 7 ปี จึงได้เริ่มศึกษาวิชาการในหลายแขนง จนกระทั่งท่านได้เป็นปราชญ์ในแวดวงฮะดีษและวิชาฟิกฮ์
หลายคนรู้จักอิหม่ามมาลิกี ในฐานะเจ้าของมัซฮับ หรือที่เรียกกันติดปากว่า มัซฮับมาลิกี แต่ในอีกด้านหนึ่งท่านเป็นนักฮะดีษที่รวมรวบบันทึกฮะดีษไว้มีชื่อว่า อัลมุวัตเฎาะอ์ ซึ่งถือเป็น 1 ใน กุตุบซิตต่า ( บันทึกฮะดีษทั้ง 6 ) แต่ก็มีนักวิชาการบางท่านเช่น ท่านอบูบักร์ อิบนุอะรอบี กล่าวว่า หนังสืออัลมุวัตเฏาะอ์ เป็นบันทึกฮะดีษอันดับหนึ่ง รองลงมาก็คือ บันทึกของอิหม่ามบุคคอรี แต่นักฮะดีษส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะในหนังสือ มุวัตเฏาะอ์ ยังมีฮะดีษประเภท มุรซัล ปะปนอยู่จำนวนถึง 222 ฮะดีษ และนักวิชาการบางท่านได้นับว่า อัลมุวัตเฏาะอ์ ในหนึ่งใน กุตุบติสอ่า (บันทึกทั้ง 9) รายละเอียดของเรื่องนี้จะได้นำมากล่าวในบทถัดไป อินชาอัลลอฮ์
ท่านอิหม่ามมาลิกีได้วางแนวทางในการรวบรวมบันทึกของท่านโดย
1 จัดเรียงฮะดีษไว้เป็นบท
2 กล่าวเรื่องไว้ในบทนำ
3 รวบรวมแนวทางการปฏิบัติของศอฮาบะห์และตาบีอีน
4 รวมทัศนะของท่านในด้านฟิกฮ์ไว้ด้วย
ในด้านของการรวมรวบฮะดีษท่านอิหม่ามมาลิกีได้วางกฎเกณฑ์ในการรับฮะดีษไว้ 4 ประการด้วยกันคือ
1 ท่านจะไม่รับฮะดีษจากคนเขลา
2 ไม่รับฮะดีษจากผู้ปฏิบัติตามอารมณ์จนกระทั่งทำอุตริกรรม (บิดอะห์)ในศาสนา
3 ไม่รับฮะดีษจากการรายงานของคนโกหกเป็นนิจ
4 ไม่รับฮะดีษจากการรายงานข้ามขั้นโดยที่เขามิได้เป็นครูเป็นศิษย์กัน
กระนั้นก็ดีในบันทึกของท่านมิใช่มีฮะดีษที่อยู่ในระดับศอเฮียะห์อย่างเดียว หากแต่รวมไว้ด้วยฮะดีษหลายประเภทเช่น มุรซัล และมุงกอเฎียะอ์ เป็นต้น แต่ท่านอิหม่ามมาลิกีได้ชี้แจงไว้ก่อนแล้วว่า ฮะดีษที่ท่านบันทึกไว้ได้รับมาจากผู้รายงานที่เชื่อถือได้
หนังสือ อัลมุวัตเฎาะอ์ ได้รับการยอมรับในระดับต้นๆ จนกระทั่งนักวิชาการในยุคถัดมาได้นำเอาไปอธิบายอีกทอดหนึ่ง เช่นท่านอิหม่ามซะยูตี เป็นต้น
ท่านอิหม่ามมาลีกีเสียชีวิตที่นครมะดีนะห์ ในปีที่ 179 ฮิจเราะห์ศักราช รวมอายุได้ 86 ปี
สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.