มุสลิม/หมวดที่1/บทที่86/ฮะดีษเลขที่ 0380
حَدَّثَنَا أَبُو مَالِكٍ الأَشْجَعِيُّ، عَنْ أَبِي حَازِمٍ، عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، وَأَبُو مَالِكٍ عَنْ رِبْعِيٍّ، عَنْ حُذَيْفَةَ، قَالاَ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم ‏"‏ يَجْمَعُ اللَّهُ تَبَارَكَ وَتَعَالَى النَّاسَ فَيَقُومُ الْمُؤْمِنُونَ حَتَّى تُزْلَفَ لَهُمُ الْجَنَّةُ فَيَأْتُونَ آدَمَ فَيَقُولُونَ يَا أَبَانَا اسْتَفْتِحْ لَنَا الْجَنَّةَ ‏.‏ فَيَقُولُ وَهَلْ أَخْرَجَكُمْ مِنَ الْجَنَّةِ إِلاَّ خَطِيئَةُ أَبِيكُمْ آدَمَ لَسْتُ بِصَاحِبِ ذَلِكَ اذْهَبُوا إِلَى ابْنِي إِبْرَاهِيمَ خَلِيلِ اللَّهِ - قَالَ - فَيَقُولُ إِبْرَاهِيمُ لَسْتُ بِصَاحِبِ ذَلِكَ إِنَّمَا كُنْتُ خَلِيلاً مِنْ وَرَاءَ وَرَاءَ اعْمِدُوا إِلَى مُوسَى صلى الله عليه وسلم الَّذِي كَلَّمَهُ اللَّهُ تَكْلِيمًا ‏.‏ فَيَأْتُونَ مُوسَى صلى الله عليه وسلم فَيَقُولُ لَسْتُ بِصَاحِبِ ذَلِكَ اذْهَبُوا إِلَى عِيسَى كَلِمَةِ اللَّهِ وَرُوحِهِ ‏.‏ فَيَقُولُ عِيسَى صلى الله عليه وسلم لَسْتُ بِصَاحِبِ ذَلِكَ ‏.‏ فَيَأْتُونَ مُحَمَّدًا صلى الله عليه وسلم فَيَقُومُ فَيُؤْذَنُ لَهُ وَتُرْسَلُ الأَمَانَةُ وَالرَّحِمُ فَتَقُومَانِ جَنَبَتَىِ الصِّرَاطِ يَمِينًا وَشِمَالاً فَيَمُرُّ أَوَّلُكُمْ كَالْبَرْقِ ‏"‏ ‏.‏ قَالَ قُلْتُ بِأَبِي أَنْتَ وَأُمِّي أَىُّ شَىْءٍ كَمَرِّ الْبَرْقِ قَالَ ‏"‏ أَلَمْ تَرَوْا إِلَى الْبَرْقِ كَيْفَ يَمُرُّ وَيَرْجِعُ فِي طَرْفَةِ يْنٍ ثُمَّ كَمَرِّ الرِّيحِ ثُمَّ كَمَرِّ الطَّيْرِ وَشَدِّ الرِّجَالِ تَجْرِي بِهِمْ أَعْمَالُهُمْ وَنَبِيُّكُمْ قَائِمٌ عَلَى الصِّرَاطِ يَقُولُ رَبِّ سَلِّمْ سَلِّمْ حَتَّى تَعْجِزَ أَعْمَالُ الْعِبَادِ حَتَّى يَجِيءَ الرَّجُلُ فَلاَ يَسْتَطِيعُ السَّيْرَ إِلاَّ زَحْفًا - قَالَ - وَفِي حَافَتَىِ الصِّرَاطِ كَلاَلِيبُ مُعَلَّقَةٌ مَأْمُورَةٌ بِأَخْذِ مَنْ أُمِرَتْ بِهِ فَمَخْدُوشٌ نَاجٍ وَمَكْدُوسٌ فِي النَّارِ ‏"‏ ‏.‏ وَالَّذِي نَفْسُ أَبِي هُرَيْرَةَ بِيَدِهِ إِنَّ قَعْرَ جَهَنَّمَ لَسَبْعُونَ خَرِيفًا 


 
                อบูมาลิก อัลอัชญะอีย์ เล่าให้พวกเราฟัง จากอบีฮาซิม จากอบีฮุรอยเราะห์ อีกสายหนึ่ง จากอบูมาลิก จากริบอีย์ จากฮุซัยฟะห์  (ศออาบะห์ทั้งสอง คือฮุซัยฟะห์ และอบูฮุรอยเราะห์) รายงานว่า ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า พระองค์อัลลอฮ์ ผู้ทรงจำเริญและสูงส่ง จะรวบรมมนุษย์ (ในวันกิยามะห์) บรรดาผู้ศรัทธาจะยืนอยู่จนกระทั่งสวรรค์ถูกนำใกล้พวกเขา พวกเขาจะมาหานบีอาดัม แล้วกล่าวว่า โอ้บรรพบุรษของพวกเรา ได้โปรดร้องขอให้เปิดประตูสวรรค์แก่พวกเราด้วยเถิด ท่านตอบว่า ที่พวกเจ้าต้องอยู่นอกสวรรค์กันมิใช่เพราะความผิดของบรรพบุรุษอาดัมของพวกเจ้าคนนี้หรือ ฉันไม่อาจช่วยพวกเจ้าได้หรอก แต่พวกเจ้าจงไปหานบีอิบรอฮีม ผู้เป็นที่รักยิ่งของอัลลอฮ์ เมื่อพวกเขาไปหานบีอิบรอฮีมก็ได้รับคำตอบว่า ฉันไม่อาจช่วยพวกเจ้าได้ในเรื่องนี้ แท้จริงฉันเป็นผู้ที่อัลลอฮ์รักก็จริงแต่พระองค์สนทนากับฉันโดยผ่านสิ่งปิดกั้น (หรือโดยผ่านญิบรีล) พวกเจ้าจงไปหามูซา ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เถิด เพราะเขาเป็นผู้ที่อัลลอฮ์สนทนาด้วยโดยตรง ดังนั้นพวกเขาจึงไปหานบีมูซา ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม แต่ก็ได้รับคำตอบว่า ฉันไม่อยู่ในฐานะที่จะช่วยพวกเจ้าได้ พวกเจ้าจงไปหาอีซาเถิด เพราะเขาเป็นประกาศิตจากอัลลอฮ์และดวงวิญญาณจากพระองค์ แต่ท่านนบีอซาก็ตอบว่า  ฉันไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะช่วยพวกเจ้าได้ พวกเจ้จงไปหามูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมเถิด  ดังนั้นเขาจึงได้ขอวิงวอนขอ (ให้เปิดประตูสวรรค์) และคำขอนั้นก็ถูกอนุมัติแก่เขา  ขณะนั้นความไว้เนื้อเชื่อใจและความเป็นเครือญาติได้ถูกนำออกไป ต่อจากนั้นสะพานจะถูกพาดผ่านนรก พวกเขาจะยืนบนสะพานทั้งด้านซ้ายและด้านขวา กลุ่มแรกในหมู่พวกเจ้าจะข้ามผ่านไปดั่งสายฟ้าแลบ
                เขาถามว่า โอ้ท่าน (รอซูล) ผู้เป็นที่รักยิ่งของฉันมากกว่าพ่อและแม่ของฉัน ข้ามผ่านไปดั่งสายฟ้าแลบเป็นเช่นไรหรือ ท่านตอบว่า พวกเจ้าไม่เห็นหรือ ขณะที่ฟ้าแลบนั้นมันผ่านไปเพียงชั่วพริบตา ต่อจากนั้น (กลุ่มถัดมา) เขาจะข้ามไปดั่งลมพัดผ่าน และ (กุล่มถัดมา) เหมือนกับนกบิน บรรดาผู้คนจะผ่านไปในสภาพเช่นใดก็ขึ้นอยู่กับผลงานของพวกเขา ขณะที่พวกเจ้าเผชิญกับสถานการณ์เช่นนั้นนบีของพวกเจ้าจะยืนอยู่บนสะพานแล้ววิงวอนว่า องค์อภิบาลของข้า ขอให้ปลอดภัยเถิด ขอให้พวกเขาปลอดภัยเถิด จนกระทั่งมาถึงคนที่มีผลงานแย่ที่สุดโดยมีคนที่ไม่สามารถจะข้ามไปได้เหมือนคนอื่นแต่เขาจะคลานไป
                ท่านกล่าวว่า ระหว่างสองฝากฝั่งของสะพานนั้นจะมีตะขอคอยกระชากคนที่มันถูกสั่ง โดยคนที่บางคนจะถูกเกี่ยวจนเนื้อเขาฉีกขาดแต่ก็ข้ามผ่านไปได้ แต่บางคนจะถูกชากไปถมทับกันอยู่ในนรก
                ขอสาบานต่อผู้ซึ่งตัวของอบูฮุรอยเราะห์ อยู่ในอุ้งพระหัติของพระองค์ว่า แท้จริงความลึกของชุมนรกญะฮันนัมนั้น เท่ากับระยะเวลาเจ็ดสิบฤดูกาล   
                  



ฮะดีษนี้มาจาก อ.ฟารีด เฟ็นดี้
http://www.fareedfendy.com

URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.fareedfendy.com/modules.php?name=Sections2&op=viewarticle2&artid=520