ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 118
وَقَالَ الَّذِيْنَ لاَ يَعْلَمُوْنَ لَوْلاَ يُكَلِّمُنَا اللهُ أوْ تَأْتِيْنَا آيَةٌ كَذَلِكَ قَالَ الَّذِيْنَ مِنْ قَبْلِهِمْ مِثْلَ قَوْلِهِمْ تَشَابَهَتْ قُلُوْبُهُمْ قَدْ بَيَّنَّا الآيَاتِ لِقَوْمٍ يُوْقِنُوْنَ
และบรรดาผู้ไม่รู้กล่าวว่า ทำไมอัลลอฮ์ถึงไม่กล่าวแก่พวกเราหรือมีสัญญาณหนึ่งมายังพวกเราโดยตรง เช่นนี้แหละ บรรดาผู้ที่มาก่อนหน้าพวกเขาก็กล่าวเช่นเดียวกับคำพูดของพวกเขานี้ ซึ่งหัวใจของพวกเขาคล้ายกัน แน่นอนว่า เราได้แจกแจงสัญญาณต่างไว้แก่กลุ่มชนที่เชื่อมั่น
บรรดานักอธิบายอัลกุรอานต่างมีมุมมองที่แตกต่างกันว่า ใครเป็นผู้กล่าวประโยคที่ว่า (ทำไมอัลลอฮ์ถึงไม่กล่าวแก่พวกเราหรือมีสัญญาณหนึ่งมายังพวกเราโดยตรง) บางท่านระบุว่า เป็นคำกล่าวของพวกนะศอรอ และบางท่านก็ว่า เป็นถ้อยคำของพวกยะฮูดและนะศอรอ และบ้างก็ว่า เป็นคำพูดของผู้เป็นปฏิเสธศรัทธาชาวอาหรับ ซึ่งอิบนุ กะษีร ได้นำเอามุมมองของบรรดานักวิชาการเหล่านี้มาแสดงว่า
“มูฮัมหมัด บิน อิสฮาก กล่าวว่า มูฮัมหมัด บิน อบี มูฮัมหมัด เล่าให้ฉันฟังจาก อิกริมะห์ หรือ สะอี๊ด บินญุบัยร์ จาก อิบนิ อับบาส กล่าวว่า ฮุรอยมะละห์ ได้กล่าวแก่ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมว่า : โอ้มูฮัมหมัด หากท่านเป็นศาสนทูตจากอัลลอฮ์จริงดังที่ท่านอ้างละก็ จงกล่าวแก่อัลลอฮ์ให้สนทนากับเราจนกระทั่งพวกเราได้ยินคำพูดของพระองค์ ดังนั้นพระองค์อัลลอฮ์จึงทรงประทานอายะห์นี้มาว่า (และบรรดาผู้ไม่รู้กล่าวว่า ทำไมอัลลอฮ์ถึงไม่กล่าวแก่พวกเราหรือมีสัญญาณหนึ่งมายังพวกเราโดยตรง)
มุญาฮิด ได้อธิบายในถ้อยคำที่ว่า (และบรรดาผู้ไม่รู้กล่าวว่า ทำไมอัลลอฮ์ถึงไม่กล่าวแก่พวกเราหรือมีสัญญาณหนึ่งมายังพวกเราโดยตรง) เขากล่าวว่า หมายถึงเหล่านะศอรอเป็นผู้กล่าวประโยคนี้ ซึ่ง อิบนุ ญะรีร ก็เห็นพ้องด้วยโดยกล่าวว่า สำนวนของอายะห์นี้ระบุถึงพวกเขา
แต่อิบนุกะษีร กล่าวว่า ประเด็นที่อธิบายนี้ยังต้องพิจารณา (อิบนุ กะษีร เล่มที่ 1 หน้าที่ 351)
เนื่องจากในสายรายงานที่นำมาแสดงข้างต้นนี้ มีผู้รายงานชื่อ มูฮัมหมัด บิน อบี มูฮัมหมัด เป็นบุคคลมัจฮูล คือไม่เป็นที่รู้จักและไม่สามารถสืบสอบประวัติได้ ฉะนั้นฮะดีษนี้จึงอยู่ในสถานะ “ฏออีฟ”
ขณะที่ อบุ้ลอาลียะห์, อัรรอเบียะอ์ บิน อนัส , ก่อตาดะห์ และ อัสซุดดีย์ ได้กล่าวในการอธิบายอายะห์นี้ว่า ผู้ที่พูดประโยคนี้คือ ผู้ปฏิเสธศรัทธาชาวอรับ (เช่นนี้แหละ บรรดาผู้ที่มาก่อนหน้าพวกเขาก็กล่าวเช่นเดียวกับคำพูดของพวกเขานี้) คำว่า บรรดาผู้ที่มาก่อนพวกเขา หมายถึง ยะฮูดและนะศอรอ
ฉะนั้นความหมายตามการอธิบายนี้ จึงหมายถึง บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาชาวอรับได้พูดเช่นเดียวกับที่พวกยะฮูดและพวกนะศอรอได้เคยพูดมาก่อนหน้านี้แล้ว
พระองค์อัลลอฮ์ กล่าวว่า
وَإذَا جَاءَتْهُمْ آيَةٌ قَالُوا لَنْ نُؤْمِنَ حَتَّى تُؤْتَي مِثْلَ مَا أُوْتِيَ رُسُلُ اللهِ اللهُ أعْلَمُ حَيْثُ يَجْعَلُ رِسَالَتَهُ سَيُصِيْبُ الَّذِيْنَ أجْرَمُوا صَغَارٌ عِنْدَ اللهِ وَعَذَابٌ شَدِيْدٌ بِمَا كَانُوا يَمْكُرُوْنَ
“เมื่อโองการได้มายังพวกเขา พวกเขาก็กล่าวว่า เราจะยังไม่ศรัทธาจนกว่าเราจะได้รับเช่นเดียวกับที่บรรดารอซูลของอัลลอฮ์ได้เคยรับมาแล้ว อัลลอฮ์ทรงรู้ดีในการที่จะมีสาสน์ของพระองค์แก่ผู้ใด ความต่ำต้อยและการลงโทษอันรุนแรงจะประสบกับบรรดาผู้ประพฤติผิด ณ.ที่อัลลอฮ์ ในสิ่งที่พวกเขาวางแผนการ” ซูเราะห์ อัลอันอาม อายะห์ที่ 124
وَقَالُوا لَنْ نُؤْمِنَ لَكَ حَتَّى تَفْجُرَ لَنَا مِنَ الأرْضِ يَنْبُوْعاً أوْ تَكُوْنَ لَكَ جَنَّةٌ مِنْ نَخِيْلٍ وَعِنَبٍ فَتُفَجِّرَ الأنْهَارَ خِلاَلَهَا تَفْجِيْراً أوْ تُسْقِطَ السَّمَاءَ كَمَا زَعَمْتَ عَلَيْنَا كِسَفاً أوْ تَأْتِيَ بِاللهِ وَالمَلاَئِكَةِ قَبِيْلاً أوْيَكُوْنَ لَكَ بَيْتٌ مِنْ زُخْرُفٍ أوْ تَرْقَى فِي السَّمَاءِ وَلَنْ نُؤْمِنَ لِرُقِيِّكَ حَتَّى تُنَزِّلَ عَلَيْنَا كِتَاباً نُقْرَؤُهُ قُلْ سُبْحَانَ رَبِّي هَلْ كُنْتُ إلاَّ بَشَراً رَسُوْلاً
“และพวกเขากล่าวว่า เราจะไม่ศรัทธาต่อท่าน จนกว่าท่านจะทำให้แผ่นดินแยกออกเป็นธารน้ำแก่พวกเรา หรือท่านมีสวนอินทผลัมและองุ่น แล้วทำให้มันแยกออกเป็นแม่น้ำหลายสายพวยพุ่งออกมาจากมัน หรือท่านทำให้ฟ้าหล่นลงมาบนพวกเราเป็นเสี่ยงๆตามที่ท่านอ้าง หรือนำอัลลอฮ์และมะลาอิกะห์มาให้เห็นประจักษ์ หรือว่าท่านมีบ้านหลังหนึ่งที่ถูกตกแต่งอย่างตระการตา หรือท่านขึ้นไปบนฟ้า เราก็จะยังไม่ศรัทธาต่อการขึ้นไปของท่าน จนกว่าท่านจะนำคัมภีร์เล่มหนึ่งลงมาให้เราได้อ่านมัน ประกาศเถิดมูฮัมหมัด มหาบริสุทธิ์แด่องค์อภิบาลของฉัน ฉันเป็นใครหรือ นอกจากเป็นปุถุชน เป็นศาสนทูต” ซูเราะห์ อัลอิสรออ์ อายะห์ที่ 90 – 93
وَقَالَ الَّذِيْنَ لاَ يَرْجُوا لِقَاءَنَا لَوْلاَ أُنْزِلَ عَلَيْنَا الْمَلاَئِكَةُ أوْ نَرَى رَبَّنَا لَقَدِ اسْتَكْبَرُوا فِي أنْفُسِهِمْ وَعَتَوا عُتُوّاً كَبِيْراً
“บรรดาผู้ซึ่งไม่หวังจะพบเรากล่าวว่า ทำไมมะลาอิกะห์จึงไม่ถูกส่งลงมายังพวกเรา หรือเราจะไม่ได้เห็นองค์อภิบาลของเรา แน่นอนว่าพวกเขาเย่อหยิ่งในตัวของพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง และได้ละเมิดขอบเขตอย่างใหญ่หลวง” ซูเราะห์ อัลฟุรกอน อายะห์ที่ 21
بَلْ يُرِيْدُ كُلُّ امْرِئٍ مِنْهُمْ أنْ يُؤْتَى صُحُفاً مُنْشَرَةً
“ทว่าพวกเขาทุกคนต้องการที่จะให้มีแผ่นบันทึกที่แผ่กางมาถึงพวกเขา” ซูเราะห์ อัลมุดดัซซิร อายะห์ที่ 52
อิบนุ กะษีร อธิบายว่า ยังมีอัลกุรอานอีกหลายอายะห์ที่แสดงถึงความปฏิเสธของบรรดาผู้ตั้งภาคีชาวอาหรับ ในการละเมิดและการดื้อดึงของพวกเขา อีกทั้งการตั้งคำถามของพวกเขาที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆแก่พวกเขาเลย แต่มันคือการปฏิเสธและการดื้อด้านของพวกเขาโดยแท้จริง เช่นเดียวกับชนกับชาติก่อนหน้าพวกเขาจากชาวคัมภีร์ทั้งสอง คือ เหล่ายะฮูดและนะศอรอ พระองค์อัลลอฮ์ ทรงกล่าวว่า
يَسْئَلُكَ أهْلُ الْكِتَابِ أنْ تُنَزِّلَ عَلَيْهِمْ كِتَاباً مِنَ السَّمَاءِ فَقَدْ سَأَلُوا مُوْسَى أكْبَرَ مِنْ ذَلِكَ فَقَالُوا أرِنَا اللهُ جَهْرَةً
“ชาวคัมภีร์จะขอร้องเจ้าให้นำคัมภีร์เล่มหนึ่งจากฟากฟ้าลงมาให้แก่พวกเขา แน่นอนว่า พวกเขาได้เคยขอร้องมูซาในเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่านี้มาก่อนแล้ว โดยพวกเขากล่าวว่า จงให้พวกเราได้เห็นอัลลอฮ์อย่างชัดเจน” ซูเราะห์ อันนิซาอ์ อายะห์ที่ 153
وَإذْ قُلْتُمْ يَا مُوْسَى لَنْ نُؤْمِنَ لَكَ حَتَّى نَرَى اللهُ جَهْرَةً
“และจงรำลึกถึงเมื่อครั้งที่พวกเจ้าได้กล่าวว่า โอ้มูซา พวกเราจะยังไม่ศรัทธาต่อท่าน จนกว่าพวกเราจะได้เห็นอัลลอฮ์อย่างชัดเจน” ซูเราะห์ อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 55
ถ้อยคำที่ว่า (หัวใจของพวกเขาคล้ายกัน) หมายถึงหัวใจของบรรดาผู้ตั้งภาคีชาวอาหรับและหัวใจของบรรดากลุ่มชนก่อนหน้าพวกเขา (ยะฮูดและนอศอรอ) ในการปฏิเสธ,ดื้อดึงและการละเมิด ดังที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงกล่าวว่า
كَذَلِكَ مَا أتَى الَّذِيْنَ مِنْ قَبْلِهِمْ مِنْ رَسُوْلٍ إلاَّ قَالُوا سَاحِرٌ أوْ مَجْنُوْنٌ أَتَوَاصَوا بِهِ بَلْ هُمْ قَوْمٌ طَاعُوْنَ
“เช่นเดียวกัน ไม่มีรอซูลคนใดที่ได้มายังบรรดาผู้ที่มาก่อนหน้าพวกเขา นอกจากพวกเขาจะกล่าวหาว่า เขาเป็นนักมายากลหรือเป็นคนเสียสติ พวกเขาได้สั่งเสียกันในเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ แต่ทว่า พวกเขาคือกลุ่มชนที่ละเมิด” ซูเราะห์ อัซซารียาต อายะห์ที่ 52 – 53
ถ้อยคำที่ว่า (เราได้แจกแจงสัญญาณต่างไว้แก่กลุ่มชนที่เชื่อมั่น) หมายถึงเราได้แจกแจงหลักฐานต่างๆในการยืนยันการเป็นศาสนทูต ซึ่งเพียงพอแล้วแก่บรรดาผู้ศรัทธาที่จะเชื่อมั่นและปฏิบัติตามรอซูล โดยไม่มีความจำเป็นใดๆแก่พวกเขาที่จะต้องถวิลหาหลักฐานอื่นๆมายืนยันอีก
สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น พระองค์อัลลอฮ์ทรงผนึกหัวใจของพวกเขา จึงทำให้การเห็นสัจธรรมของพวกเขาพร่ามัว ซึ่งคนพวกนี้ พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวถึงพวกเขาว่า
إنَّ الَّذِيْنَ حَقَّتْ عَلَيْهِمْ كَلِمَتُ رَبِّكَ لاَ يُؤْمِنُوْنَ وَلَوْ جَاءَتْهُمْ كُلُّ آيَةٍ حَتَّى يَرَوُا الْعَذَابَ الأَلِيْمَ
“แท้จริง บรรดาผู้ที่ดำรัสแห่งองค์อภิบาลของเจ้าได้ยืนยันแก่พวกเขา พวกเขาก็จะไม่ศรัทธา และถึงแม้ว่าทุกสัญญาณใดมีมายังพวกเขาก็ตาม จนกว่าพวกเขาจะได้เห็นการลงโทษอันเจ็บปวด” ซูเราะห์ ยูนุส อายะห์ที่ 96 97