ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 35
وَقُلْنَا يَا آدَمُ اسْكُنْ أنْتَ وَزَوْجُكَ الْجَنَّةَ وَكُلاَ مِنْهَا رَغَداً حَيْثُ شِئْتُمَا وَلاَ تَقْرَبَا هَذِهِ الشَّجَرَةَ فَتَكُوْنَا مِنَ الظَّالِمِيْنَ
และเราได้กล่าวว่า โอ้อาดัม เจ้าและคู่ครองของเจ้าจงพำนักอยู่ในสวรรค์ และเจ้าทั้งสองจงกินสิ่งที่มีอยู่ในสวรรค์ตามแต่เจ้าทั้งสองปรารถนา และจงอย่าเข้าใกล้ต้นไม้นี้ มิเช่นนั้นเจ้าทั้งสองก็จะเป็นผู้อธรรม
นอกจากพระองค์อัลลอฮ์จะทรงใช้ให้เหล่ามะลาอิกะห์แสดงคาราวะต่ออาดัม และทรงสอนความรู้ให้แก่อาดัมแล้ว พระองค์ยังทรงเล่าให้ฟังถึงความเมตตาของพระองค์ที่มีต่ออาดัม ด้วยการให้สวนสวรรค์เป็นที่พำนัก นอกจากนั้นยังทรงให้คู่ครอง และให้ทั้งสองมีปัจจัยในการดำรงชีพในสวรรค์ โดยอนุญาตให้กินสิ่งที่มีอยู่ในสวรรค์ตามแต่ปรารถนา
ตามข้อความที่ระบุในอายะห์นี้ ทำให้เข้าใจได้ว่า พระองค์อัลลอฮ์ทรงสร้างท่านหญิงฮาวาให้เป็นคู่ครองของนบีอาดัม ก่อนที่จะให้ทั้งสองเข้าพำนักในสวรรค์ ขณะเดียวกัน อัสซุดดีย์ ได้กล่าวไว้ในตัฟซีรของเขาว่า พระองค์อัลลอฮ์ทรงสร้างท่านหญิงฮาวาหลังจากที่ให้อาดัมเข้าสวรรค์แล้ว อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจต่อกรณีทั้งสองนี้มิได้ทำให้เสียหลักความเชื่อมั่นในอิสลามแต่อย่างใด
สิ่งที่มนุษยชาติน่าภาคภูมิใจก็คือ บรรพบุรุษของพวกเขาคือชาวสวรรค์, ก่อนที่มาพำนักชั่วคราวบนโลกใบนี้ และในแต่ยุคสมัยก็จะมีศาสนทูตของอัลลอฮ์ มาเรียกร้องลูกหลานของอาดัมให้กลับสู่ถิ่นเดิมที่บรรพบุรุษของพวกเขาเคยพำนักอยู่
สวรรค์ที่ถูกกล่าวไว้ในอายะห์นี้ คือสถานที่ถาวรที่มีอยู่ก่อนแล้วบนฟ้า มิใช่สวรรค์บนดินตามการอ้างของ กลุ่มมัวอ์ตะซีละห์ และ กลุ่มก็อดรียะห์ ซึ่งจะนำมาอธิบายในอายะห์ถัดไป อินชาอัลลอฮ์
พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงทดสอบนบีอาดัมและคู่ครองของท่านโดยวางเงื่อนไขว่า (และจงอย่าเข้าใกล้ต้นไม้นี้) ซึ่งบรรดานักอรรถาธิบายอัลกุรอานพยายามที่จะระบุชื่อต้นไม้ที่ถูกห้ามนี้ บ้างก็กล่าวว่า คือ ต้นองุ่น และบ้างก็กล่าวว่า คือ ต้นไม้ที่มีรวง, บ้างก็ว่า ต้นข้าวสาลี แลบ้างก็ว่า ต้นมะกอก และ ฯลฯ แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่มีหลักฐานที่ถูกต้องมายืนยัน
“ท่านอิหม่าม อัลลามะห์ อบู ญะอ์ฟัร อิบนุ ญะรีร ขออัลลอฮ์เมตตาต่อท่านด้วย ได้กล่าวว่า ที่ถูกต้องในเรื่องนี้คือ อัลลอฮ์ได้ห้ามนบีอาดัมและคู่ครองของท่านไม่ให้กินผลของต้นไม้ในสวรรค์ ซึ่งไม่ใช่ต้นไม้ทั่วไปในดุนยา แต่ทั้งสองก็ได้กิน ซึ่งเราไม่มีข้อมูลที่แสดงว่าเป็นต้นไม้ชนิด เนื่องจากอัลลอฮ์ไม่ได้แสดงหลักฐานให้บ่าวของพระองค์ทราบในอัลกุรอ่าน หรือแม้แต่ซุนนะห์ที่ถูกต้อง” ตัฟซีร อิบนิกะษีร เล่มที่ 1 หน้าที่ 114