ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 50


وَإذْ فَرَقْنَا بِكُمُ الْبَحْرَ فَأنْجَيْنَاكُمْ وَأغْرَقْنَا آلَ فِرْعَوْنَ وَأنْتُمْ تَنْظُرُوْنَ


และจงทบทวนขณะที่เราได้แยกทะเลออก แล้วเราได้ทำให้พวกเจ้ารอดพ้นจากการไล่ล่า และเราได้ทำให้พลพรรคของฟิรเอาน์จมน้ำ ขณะที่พวกเจ้ามองดูอยู่


อายะห์นี้มีความสัมพันธ์กับอายะห์ก่อนหน้านี้ คือความช่วยเหลือของพระองค์อัลลอฮ์แก่วงศ์วานของอิสรออีล โดยเฉพาะกลุ่มชนชาวยะฮูดที่ถูกบังคับขู่เข็ญจากฟิรเอาน์และพลพรรค และในอายะห์นี้ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ให้ความช่วยเหลือพวกเขาให้รอดพ้นจากการล่าสังหารของฟิรเอาน์และพลพรรค

ข้อความที่ว่า (และจงทบทวนขณะที่เราได้แยกทะเลออก) คือ เหตุการณ์ที่ฟิรเอาน์และพลพรรคล่าสังหารนบีมูซาและบนีอิสรออีลจนกระทั่งประชิดทะเลแดง พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงบัญชาให้นบีมูซาเอาไม้เท้าของท่านฟาดน้ำทะเล ดังที่พระองค์ทรงกล่าวว่า

فَأوْحَيْنَا إلَى مُوْسَى أنِ اضْرِبْ بِعَصَاكَ الْبَحْرَ فَأنْفَلَقَ فَكَانَ كُلُّ فَرِيْقٍ كَالطَّوْدِ الْعَظِيْمِ


“และเราได้วะฮีย์ให้แก่มูซาว่า จงฟาดทะเลด้วยไม้เท้าของเจ้า แล้วก็แยกออก โดยแต่ละฟากฝั่งนั้นเป็นเช่นเดียวกับขุนเขาสูงใหญ่” ซูเราะห์ อัซชุอะรออ์ อายะห์ที่ 63

การที่นบีมูซา เอาไม้เท้าฟาดน้ำทะเลนั้นเป็นวะฮีย์จากพระองค์อัลลอฮ์ มิใช่เป็นการกระทำโดยพละการและมิใช่เกิดจากความบังเอิญที่น้ำทะเลงวดในช่วงนั้นพอดี และการที่น้ำทะเลแยกออกโดยสองฟากฝั่งสูงตระหง่านดั่งขุนเขานั้นก็เป็นหนึ่งใน “มัวญิซาต” หมายถึงอภินิหารที่พระองค์ทรงมอบให้แก่นบีมูซาเช่นเดียวกัน

ข้อความที่ว่า (แล้วเราได้ทำให้พวกเจ้ารอดพ้นจากการไล่ล่า) คือ พระองค์อัลลอฮ์ทรงให้นบีมูซาและวงศ์วานของอิสรออีลข้ามผ่านทะเลแดงไปได้อย่างปลอดภัย หมายถึงพระองค์อัลลอฮ์ทรงช่วยให้พวกเขาปลอดภัยจากการไล่ล่า และปลอดภัยจากจากการจมน้ำทะเล พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า

وَأنْجَيْنَا مُوْسَى وَمَنْ مَعَهُ أجْمَعِيْنَ

“และเราได้ให้มูซาและผู้ที่อยู่ร่วมกับเขาปลอดภัยทั้งหมด” ซูเราะห์ อัซชุอะรออ์ อายะห์ที่ 65


ข้อความที่ว่า (และเราได้ทำให้พลพรรคของฟิรเอาน์จมน้ำ) ขณะที่ฟิรเอาน์และพลพรรคติดตามมาอย่างกระชั้นชิด เมื่อเห็นว่านบีมูซาและบนีอิสรออีลข้ามผ่านทะเลไปได้ ก็ติดตามไปอย่างไม่ลดละ แต่พระองค์ก็ทรงทำให้พวกเขาจมน้ำ พระองค์กล่าวว่า

ثُمَّ اغْرَقْنَا الآخَرِيْنَ

“และเราได้ให้คนอื่นๆ จมน้ำ” ซูเราะห์ อัซชุอะรออ์ อายะห์ที่ 66


อาจจะมีบางคนเข้าใจว่า ผู้ที่จมน้ำในเหตุการณ์ครั้งนี้คือ พลพรรคของฟิรเอาน์เท่านั้น แต่ความจริงแล้วคือ ทั้งตัวของฟิรเอาน์และพลพรรคของเขาทั้งหมด ซึ่งพระองค์อัลลอฮ์ทรงเล่าถึงเหตุการณ์ขณะที่ฟิรเอาน์กำลังจมน้ำว่า เขาได้ประกาศยอมจำนน และประกาศยืนยันยอมรับในการเป็นพระเจ้าของพระองค์อัลลอฮ์ ดังที่พระองค์ได้กล่าวว่า

وَجَاوَزْنَا بِبَنِي إسْرَائِيْلَ الْبَحْرَ فَأتَّبَعَهُمْ فِرْعَوْنُ وَجُنُوْدُهُ بَغْياً وَعَدُوّاً حَتَّى إذَا أدْرَكَهُ الْغَرَقُ قَالَ آمَنْتُ أنَّهُ لاَ إلهَ إلاَّ الَّذِي آمَنَتْ بِهِ بَنُوا إسْرَائِيْلَ وَأنَا مِنَ الْمُسْلِمِيْنَ

“และเราได้ให้บนีอิสรออีลข้ามผ่านทะเลไป โดยฟิรเอาน์และพลพรรคของเขาติดตามไปอย่างอาฆาตและเป็นศัตรู จนกระทั่งการจมน้ำได้มาถึงเขา (ฟิรเอาน์) ก็กล่าวว่า ข้าศรัทธาแล้ว แท้จริงไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระเจ้าที่บนีอิสรออีลได้ศรัทธา และข้าก็เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ยอมจำนน” ซูเราะห์ ยูนุส อายะห์ที่ 90

ข้อความที่ว่า (ขณะที่พวกเจ้ามองดูอยู่) คือเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ตั้งแต่เริ่มแรกขณะถูกล่าสังหารจนกระทั่งประชิดทะเลแดง และการที่นบีมูซาเอาไม้เท้าฟาดน้ำทะเลแล้วน้ำทะเลก็แยกออกโดยสองฟากฝั่งสูงดั่งขุนเขาทำให้พวกเขาข้ามผ่านไปได้อย่างปลอดภัย และเหตุการณ์ที่ฟิรเอาน์กับพลพรรคจมน้ำทะเล ทั้งหมดนี้เป็นเหตุการณ์ที่บนีอิสรออีลได้รู้ได้เห็นด้วยตัวเอง แต่พวกเขากลับลืมนึกถึงความเมตตาที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงมีต่อพวกเขา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตรงกับวันที่ 10 เดือนมุฮัรรอม หรือวันอาชูรออ์ ตามคำรายงานของ อิบนิ อับบาสว่า

قَدِمَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ الْمَدِيْنَةَ فَرَآى الْيَهُوْدَ يَصُوْمُوْنَ يَوْمَ عَاشُوْرَاءَ فَقَالَ : مَا هَذَا الْيَوْمُ الَّذِي تَصُوْمُوْنَ ؟ قَالُوا هَذَا يَوْمٌ صَالِحٌ هَذَا يَوْمٌ نَجَّي اللهُ عَزَّوَجَلَّ فِيْهِ بَنِي إسْرَائِيْلَ مِنْ عَدُوِّهِمْ فَصَامَهُ مُوْسَى فَقَالَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : أنَا أحَقُّ بِمُوْسَى مِنْكُمْ فَصَامَهُ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَأَمَرَ بِصَوْمِهِ

“ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้เดินทางมาที่นครมะดีนะห์ แล้วพบว่าชาวยะฮูดได้ถือศีลอดในวันอาชูรออ์ ท่านถามว่า นี้เป็นวันอะไรหรือพวกเจ้าจึงได้ถือศีลอดกัน พวกเขาตอบว่า วันนี้เป็นวันดี คือวันที่อัลลอฮ์ ผู้สูงส่ง ได้ให้บนีอิสรออีลปลอดภัยจากศัตรูของพวกเขา แล้วมูซาก็ถือศีลอดในวันนี้ ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า : ฉันควรที่จะระลึกถึงมูซามากยิ่งกว่าพวกเจ้าอีก ดังนั้นท่านจึงถือศีลอดและใช้ให้ถือศีลอดในวันดังกล่าว” บันทึกโดย บุคอรี,มุสลิม,นะซาอีย์ และ อิบนุมาญะห์ สำนวนคำรายงานนี้จากมุสนัด อิหม่ามอะห์หมัด ฮะดีษเลขที่ 2512