ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 79
فَوَيْلٌ لِلَّذِيْنَ يَكْتُبُوْنَ الْكِتَابَ بِأَيْدِيْهِمْ ثُمَّ يَقُوْلُوْنَ هَذَا مِنْ عِنْدِ اللهِ لِيَشْتَرُوا بِهِ ثَمَناً قَلِيْلاً فَوَيْلٌ لَّهُمْ مِمَّا كَتَبَتْ أيْدِيْهِمْ وَوَيْلٌ لَّهُمْ مِمَّا يَكْسِبُوْنَ
ดังนั้นความวิบัติจงประสบแด่บรรดาผู้ที่เขียนคัมภีร์ ด้วยมือของพวกเขา แล้วพวกเขาก็กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่มาจากอัลลอฮ์ เพื่อพวกเขาจะได้แลกเปลี่ยนมันด้วยราคาเพียงเล็กน้อย ดังนั้นความวิบัติจงประสบแก่พวกเขา เนื่องจากสิ่งที่มือของเขาเขียนขึ้นมา และความวิบัติจงประสบแก่พวกเขาเนื่องจากสิ่งที่พวกเขาแสวงหา
ในบรรดาเหล่ายะฮูดนั้น มีทั้งคนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่เป็นดังที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงแจ้งไว้ในอายะห์ก่อนหน้านี้ และมีทั้งผู้ที่อ่านเขียนได้ดังที่กล่าวไว้ในอายะห์นี้ คือบรรดาแกนนำในหมู่พวกเขาที่เป็นนักบวช ที่ทำการแก้ไขคัมภีร์อัตเตารอต ด้วยการลบข้อความที่เป็นดำรัสของพระองค์อัลลอฮ์ออก แล้วเขียนอย่างที่ตัวเองต้องการแทนที่ แล้วนำไปหลอกบรรดาผู้ที่อ่านไม่ออกเขียนไม่เป็นว่า เป็นถ้อยคำที่มาจากพระองค์อัลลอฮ์
พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า (ดังนั้นความวิบัติจงประสบแด่บรรดาผู้ที่เขียนคัมภีร์ ด้วยมือของพวกเขา) คำว่า وَيْلٌ ถูกกล่าวไว้ในอายะห์นี้สามครั้งด้วยกัน ซึ่งอิบนุ ญะรีร ได้ตีแผ่มุมมองของนักอธิบายอัลกุรอานไว้หลายกรณีเช่น
“อบู กุรัยบ์ เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า อุสมาน บิน สะอี๊ด เล่าให้เราฟังจาก บิชร์ บิน อิมาเราะห์ จาก อบีวัรก์ จาก อัตเฏาะฮ์ฮาก จาก อิบนิ อับบาส ในถ้อยคำที่ว่า (ดังนั้นความวิบัติจงประสบแก่พวกเขา) คือ การลงโทษได้ประสบแก่พวกเขา
อิบนุ บัซชาร เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า อิบนุ มะฮ์ดีย์ เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า ซุฟยานเล่าให้เราฟังจาก ซิยาด อิบนุ ฟัยยาด กล่าวว่า ฉันเคยได้ยิน อบา อิยาฏ กล่าวว่า وَيْلٌ คือ น้ำหนองที่ไหลออกมาจากก้นนรกญะฮันนัม
บิชร์ บิน อะบาน อัลฮิตอบ เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า วะเกียะอ์ เล่าให้เราฟัง จาก ซุฟยาน จาก ซิยาด บิน ฟัยยาด จาก อบี อิยาฏ ในถ้อยคำที่ว่า (ดังนั้นความวิบัติ) เขากล่าวว่า คือบ่อน้ำหนองในก้นเหวของนรกญะฮันนัม
อาลี บิน ซะฮ์ อัรรอมลี เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า ซัยด์ บิน อบี อัซซัรกออ์ เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า ซุฟยาน บิน ซิยาด บิน ฟัยยาด เล่าให้เราฟังจาก อบี อิยาฏ กล่าวว่า คือ หุบเหวของน้ำหนองในนรกญะฮันนัม
อิบนุ ฮุมัยด์ เล่าให้เราฟัง โดยกล่าวว่า มิฮ์รอน เล่าให้เราฟังจาก ซะกีก กล่าวว่า คือ น้ำหนองที่ไหลนองในก้นนรกญะฮันนัม” ตัฟซีร อัตฏอบะรีย์ เล่มที่ 1 หน้าที่ 378
ขณะเดียวกัน อิบนุ ญะรีร ได้แสดงข้อความที่อ้างถึงคำพูดของท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เกี่ยวกับกรณีนี้ว่า
อัลมุซันนา เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า อิบรอฮีม บิน อับดิสสลาม บิน ซอและห์ อัลตัสตะรีย์ เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า อาลี บิน ญะรีร เล่าให้เราฟังจาก ฮัมมาด บิน ซะละมะห์ บิน อับดุลฮามีด บิน ญะอ์ฟัร จาก กินานะห์ อัลอัดวีย์ จาก อุสมาน บิน อัฟฟาน จาก ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “อัลวัยลุคือภูเขาในนรก” และในบางบทจากสายรายงานเดียวกันนี้มีข้อความเพิ่มเติมว่า “ชาวยะฮูดจะได้พำนักอยู่ เนื่องจากพวกเขาบิดเบือนคัมภีร์อัตเตารอต โดยเพิ่มข้อความที่ต้องการลงไป และลบข้อความที่ไม่ต้องการออก อีกทั้งลบชื่อ มูฮัมหมัด ออกจากคัมภีร์อัตเตารอต” แต่ฮะดีษจากสายรายงานนี้อยู่ในสถานะฏออีฟ เนื่องจากบรรดาผู้รายงานในสายนี้ล้วนเป็นบุคคล มัจญ์ฮูล คือไม่สามารถสืบประวัติได้
อีกบทหนึ่งที่ อิบนุ ญะรีร นำมาระบุไว้ในตัฟซีรของท่านคือ
ยูนุส เล่าให้ฉันฟังโดยกล่าวว่า อิบนุ วะฮ์บิน บอกกับเราโดยกล่าวว่า อัมร์ บิน อัลฮาริษ (ในบันทึกต้นฉบับใช้คำว่า อัลฮัรษ์) เล่าให้ฉันฟังจาก ดัรรอจญ์ จาก อบีลฮัยซัม จาก อบี สะอี๊ด จากท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “วัยลุนคือหุบเหวในนรกญะฮันนัม ซึ่งผู้ปฏิเสธการศรัทธาจะต้องพำนักอยู่สี่สิบฤดูกาลก่อนที่ลงสู่ก้นเหวของนรก” ฮะดีษนี้ถูกบันทึกในสุนัน อัตติรมีซีย์ ฮะดีษเลขที่ 3088 นอกจากนี้ยังมีบันทึกในมุสนัด อิหม่ามอะห์หมัด, อัลมุสตั๊ดร๊อก ของ อัลฮากิม และอัลฮากิม ได้กล่าวว่า สายรายงานของฮะดีษบทนี้ถูกต้อง
แต่นักฮะดีษหลายท่านวิจารณ์ว่า ฮะดีษบทนี้ฏออีฟ เนื่องจากเป็นการรายงานของ ดัรรอจญ์ บิน ซัมอาน อ้างถึง อบีลฮัยซัม (สุไลมาน บิน อัมร์) ซึ่ง อัลนะซาอีย์ กล่าวว่า ไม่แข็งแรง, อบูฮาติม กล่าวว่า ฮะดีษของเขาฏออีฟ, อิหม่ามอะห์หมัด กล่าวว่า ฮะดีษของ ดัรรอจญ์ ที่อ้างถึง อีลฮัยซัม จาก อบี สะอี๊ด นั้นฏออีฟ วัลลอฮุอะอ์ลัม
อิบนุ กะษีร กล่าวว่า “อายะห์นี้แจ้งลักษณะของยะฮูดอีกประเภทหนึ่ง พวกเขาคือ ผู้ที่เรียกร้องผู้คนไปสู่ความหลงผิดด้วยเรื่องที่ไม่มีแก่นสารและการกล่าวเท็จต่ออัลลอฮ์ และกินทรัพย์ของผู้อื่นโดยอธรรม
คำว่า وَيْلٌ คือ ความวิบัติและความพินาศ ซึ่งเป็นคำภาษาอาหรับที่รู้จักกันดี” ตัฟซีร อิบนิ กะษีร เล่มที่ 1 หน้าที่ 168
ถ้อยคำที่ว่า (บรรดาผู้ที่เขียนคัมภีร์ ด้วยมือของพวกเขา แล้วพวกเขาก็กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่มาจากอัลลอฮ์) ข้อความนี้อธิบายได้เป็นสองกรณีคือ เขียนข้อความขึ้นใหม่แล้วนำไปหลอกกับคนที่ไม่รู้โดยกล่าวว่า สิ่งนี้มาจากอัลลอฮ์ หรืออีกกรณีหนึ่งคือ ลบข้อความที่พวกเขาไม่ต้องการออกจากคัมภีร์แล้วเขียนสิ่งที่ตนเองต้องการ ปะปนกับถ้อยคำของอัลลอฮ์ แล้วเอาไปหลอกกับคนที่ไม่รู้โดยกล่าวว่า นี่คือสิ่งที่มาจากอัลลอฮ์
อิบนุ อับบาส กล่าวว่า บรรดาบาทหลวงชาวยะฮูด ได้พบคุณลักษณะของท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์ของพวกเขาว่า ท่านเป็นที่มีตาโต สูงปานกลาง ผมหยักศก และมีใบหน้างดงาม พวกเขาจึงแก้ข้อความนี้แล้วเขียนข้อความใหม่ว่า ท่านเป็นคนสูงชะลูด มีตาสีน้ำเงิน และมีผมสยาย เนื่องจากความริษยาของพวกเขา
ถ้อยคำที่ว่า (เพื่อพวกเขาจะได้แลกเปลี่ยนมันด้วยราคาเพียงเล็กน้อย) อิบนุ ญะรีร กล่าวว่า
“มูซา เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า อัมร์ เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า อัสบาฏ เล่าให้เราฟังจาก อัสซุดดีย์ ว่า ชาวยะฮูดกลุ่มหนึ่งได้เขียนคัมภีร์กันขึ้นเองแล้วนำมันไปขายให้แก่ชาวอาหรับ โดยพวกเขาอ้างว่ามันมาจากอัลลอฮ์ เพื่อนำมันแลกกับราคาเพียงเล็กน้อย
อบูกุรัยบ์ เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า อุสมาน บิน สะอี๊ด เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า บิชร์ บิน อิมาเราะห์ เล่าให้เราฟังจาก อบีลวัรก์ จาก อัตเฏาะฮ์ฮาก จาก อิบนิ อับบาส กล่าวว่า บรรดาผู้ที่อ่านไม่ออกเขียนไม่เป็นคือกลุ่มชนที่ไม่ศรัทธาต่อรอซูลที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ส่งมา และไม่ศรัทธาต่อคัมภีร์ที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงประทานมา ดังนั้นกลุ่มหนึ่งในหมู่พวกเขาจึงได้เขียนคัมภีร์ขึ้นด้วยมือของพวกเขาเอง แล้วพวกเขาก็บอกกับบรรดาผู้โง่เขลา ดังที่พระองค์อัลลอฮ์ได้กล่าวว่า (นี่คือสิ่งที่มาจากอัลลอฮ์ เพื่อพวกเขาจะได้แลกเปลี่ยนมันด้วยราคาเพียงเล็กน้อย) หมายถึง ผลประโยชน์ต่างๆในดุนยา
มูฮัมหมัด บิน อัมร์ เล่าให้ฉันฟังโดยกล่าวว่า อบูอาศิม เล่าให้เราฟังจาก อีซา จาก อิบนุ อบีนะญิฮ์ จาก มุญาฮิด กล่าวว่า พวกเขาคือบรรดาผู้ที่รู้ว่ามันเป็นคัมภีร์ที่มาจากอัลลอฮ์ จึงได้บิดเบือน” ตัฟซีร อัตฏอบะรีย์ เล่มที่ 1 หน้าที่ 379
ข้อความที่ว่า (และความวิบัติจงประสบแก่พวกเขาเนื่องจากสิ่งที่พวกเขาแสวงหา) คือ สิ่งที่พวกเขาอุปโลกน์ว่าเป็นคัมภีร์ที่มาจากอัลลอฮ์ ทั้งๆที่พวกเขาเขียนกันขึ้นเอง แล้วนำไปหลอกกับคนที่ไม่รู้ เพื่อแสวงหาปัจจัยในดุนยาอย่างทุจริต และต้องห้าม ดังที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงกล่าวว่า
وَتَرَى كَثِيْراً مِّنْهُمْ يُسَارِعُوْنَ فِي الإثْمِ وَالْعُدْوَانِ وَأكْلِهِمُ السُّجْتَ لَبِئْسَ مَاكاَنُوا يَعْمَلُوْنَ
“และเจ้าจะเห็นอย่างมากมายในหมู่พวกเขาต่างรีบเร่งในการกระทำบาปและการเป็นศัตรูกัน และการกินสิ่งที่เป็นที่ต้องห้ามของพวกเขา ช่างเลวร้ายเสียจริง สิ่งที่พวกเขากระทำ” ซูเราะห์ อัลมาอิดะห์ อายะห์ที่ 62