ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 90


بِئْسَمَا اشْتَرَوا بِهِ أنْفُسَهُمْ أنْ يَكْفُرُوا بِمَآ أنْزَلَ اللهُ بَغْياً أنْ يُنَزِّلَ اللهُ مِنْ فَضْلِهِ عَلَى مَنْ يَشَاءُ مِنْ عِبَادِهِ فَبَاءُو بِغَضَبٍ عَلَى غَضَبٍ وَلِلْكَافِرِيْنَ عَذَابٌ مُهِيْنٌ


ช่างชั่วช้าเสียจริงๆ ที่พวกเขาแลกเปลี่ยนตัวของพวกเขาด้วยสิ่งนั้น ในการปฏิเสธสิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงประทานมา เนื่องจากความริษยาที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงให้ความโปรดปรานของพระองค์ลงมาแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากบ่าวของพระองค์ ดังนั้นพวกเขาจึงได้นำเอาความโกรธทวีความโกรธกลับสู่พระองค์ และสำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้นคือ การลงโทษอันอัปยศ



พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงประณามพฤติกรรมของเหล่ายะฮูดที่พวกเขายอมแลกเปลี่ยนตัวของเขาตัวของเขากับสัจธรรมที่ท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม นำมาประกาศ โดยยอมให้ตัวเองจมปลักอยู่กับความหลงผิด ซึ่งคือการที่พวกเขายอมที่จะเผชิญกับความโกรธของอัลลอฮ์และการลงโทษอันเจ็บปวดจากพระองค์

พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า (ช่างชั่วช้าเสียจริงๆ ที่พวกเขาแลกเปลี่ยนตัวของพวกเขาด้วยสิ่งนั้น) คำว่า اشتروا ที่ถูกระบุอยู่ในอายะห์นี้นั้น มีความตรงตัวในทางภาษาว่า “พวกเขาซื้อ” ซึ่งโดยปกติวิสัยของคนโดยทั่วไปนั้น เมื่อเขาต้องการสิ่งใด ก็จะนำเงินตามมูลค่าของสิ่งที่ต้องการไปแลกเปลี่ยนสิ่งนั้นมา หรือการซื้อ การขายในอดีตจะใช้วิธีการนำของไปแลกของ
และเมื่ออัลลอฮ์กล่าวว่า พวกเขาซื้อ ในที่นี้คือการที่เขาแลกเปลี่ยนสิ่งที่พวกเขาต้องการ โดยต้นทุนการแลกเปลี่ยนของพวกเขามิใช่ทรัพย์สิน แต่คือตัวของพวกเขาเองที่นำไปแลกกับความหลงผิด

มุญาฮิด กล่าวว่า (ช่างชั่วช้าเสียจริงๆ ที่พวกเขาแลกเปลี่ยนตัวของพวกเขาด้วยสิ่งนั้น) คือพวกยะฮูด ได้แลกเปลี่ยนความจริงด้วยความเท็จ และปิดบังสิ่งที่มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้นำมา
คือพวกเขาปกปิดเรื่องราวของท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ที่ถูกระบุไว้ในคัมภีร์อัตเตารอต ทั้งๆที่พวกเขาก็รู้กันดีอยู่

ถ้อยคำที่ว่า (เนื่องจากความริษยาที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงให้ความโปรดปรานของพระองค์ลงมาแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากบ่าวของพระองค์) คือพวกเขาต่างตั้งความหวังกันว่า พระองค์อัลลอฮ์จะทรงแต่งตั้งบุคคลในหมู่พวกเขาที่มีเชื้อสาย บนีอิสรออีล เป็นรอซูลคนถัดไป แต่พระองค์กลับแต่งตั้งนบี มูฮัมหมัด จากคนอาหรับ ทำให้พวกเขาไม่อาจทำใจยอมรับ ทั้งนี้เนื่องจากความอิจฉาริษยาของพวกเขาที่มีต่อท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม

“อัสซุดดีย์ กล่าวว่า พวกเขาอาฆาตแค้นต่อท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม และ อิจฉาริษยาเขา โดยพวกเขากล่าวกันว่า บรรดารอซูล ต้องมาจากบนีอิสรออีลเท่านั้น แต่ นบีมูฮัมหมัด มีเชื้อจากทางด้านของนบี อิสมาอีล จึงทำให้พวกเขาอิจฉา ที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงให้ความโปรดปรานของพระองค์แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากบ่าวของพระองค์
อบีล อาลียะห์ กล่าวว่า หมายถึงพวกเขาอิจฉา ที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงให้ความโปรดปรานของพระองค์แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากบ่าวของพระองค์ พวกเขาคือชาวยะฮูด ที่ปฏิเสธสิ่งที่ถูกประทานลงมาให้แก่ท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม
อบู ญะอ์ฟัร กล่าวว่า ความหมายของอายะห์นี้คือ : มันเป็นความชั่วช้าที่พวกเขาขายตัวของพวกเขา ด้วยการปฏิเสธต่อผู้ที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงระบุไว้ในคัมภีร์ที่ทรงมอบให้แก่นบีมูซา จากการเป็นนบีของ มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม และคำสั่งใช้ให้เชื่อและปฏิบัติตามเขา และไม่ยอมรับในความโปรดปรานที่พระองค์ทรงมอบให้แก่เขา ไม่ว่าจะเป็นความโปรดปราน,ความรอบรู้,โองการต่างๆ และตำแหน่งนบีที่ทรงมอบให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากบ่าวของพระองค์ ซึ่งหมายถึงท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ด้วยความอาฆาตแค้นและอิจฉาริษยาต่อท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เนื่องจากท่านนั้นมีเชื้อสายจากนบีอิสมาอีล ไม่ใช่บนีอิสรออีล” ตัฟซีร อัตฏอบะรีย์ เล่มที่ 1 หน้าที่ 415

ถ้อยคำที่ว่า (ดังนั้นพวกเขาจึงได้นำเอาความโกรธทวีความโกรธกลับสู่พระองค์) คือความโกรธโถมทับความโกรธ หรือทวีความโกรธมากขึ้น

“อิบนิ อับบาส กล่าวว่า ความโกรธซ้อนความโกรธก็คือ พวกเขาละเลยในการยึดถือและปฏิบัติอัตเตารอตที่มีอยู่กับพวกเขา และอีกโกรธหนึ่งก็คือ การปฏิเสธของพวกเขาต่อนบีที่อัลลอฮ์ทรงทยอยแต่งตั้งมายังพวกเขา
อิกริมะห์ กล่าวว่า โกรธแรกนั้นคือ การที่พวกยะฮูดปฏิเสธต่ออีซา และโกรธที่สองคือการที่พวกเขาปฏิเสธต่อท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม
ก่อตาดะห์ และ อบูล อาลียะห์ กล่าวว่า อัลลอฮ์ทรงโกรธพวกเขาที่ปฏิเสธอินญีลและปฏิเสธอีซา และอีกโกรธหนึ่งคือ การที่พวกเขาปฏิเสธอัลกุรอานและปฏิเสธต่อท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม
มุญาฮิด กล่าวว่า ชาวยะฮูด ได้ทำการเปลี่ยนแปลงอัตเตารอตก่อนที่ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม จะถูกแต่งตั้งมา และอีกโกรธหนึ่งคือ การต่อต้านของพวกเขาที่มีต่อท่านนบีมูฮัมหมัด และการปฏิเสธของพวกเขาต่อสิ่งที่นบีมูฮัมหมัดได้นำมา
อัสซุดดีย์ กล่าวว่า โกรธแรกคือ การที่พวกเขาสักการะรูปหลอมวัวแทนอัลลอฮ์ และโกรธที่สองคือ การที่พวกเขาปฏิเสธต่อท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม” ตัฟซีร อัตฏอบะรีย์ เล่มที่ 1 หน้าที่ 417

ถ้อยคำที่ว่า (และสำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้นคือ การลงโทษอันอัปยศ)

“อิบนุ ญะรีร อธิบายว่า “คือทุกคนที่ขัดขวางการเป็นนบีของมูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม พวกเขาทุกคนจะได้รับการลงโทษจากอัลลอฮ์ ไม่ว่าจะถูกลงโทษในอาคิเราะห์ หรือบางทีก็ในดุนยา ส่วนในอาคิเราะห์นั้น คือความอัปยศอดสู” ตัฟซีร อัตฏอบะรีย์ เล่มที่ 1 หน้าที่ 418

ส่วน อิบนุ กะษีร กล่าวว่า เนื่องจากการปฏิเสธของพวกเขาด้วยความอาฆาตและการอิจฉา ที่ก่อกำเนิดจากหยิ่งผยอง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเผชิญกับความต่ำต้อยทั้งในดุนยาและอาคิเราะห์ ดังที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า

إنَّ الَّذِيْنَ يَسْتَكْبِرُوْنَ عَنْ عِبَادَتِي سَيَدْخُلُوْنَ جَهَنَّمَ دَاخِرِيْنَ

“แท้จริงบรรดาผู้หยิ่งผยองในการสักการะต่อข้านั้น พวกเขาจะเข้าขุมนรกอย่างผู้ที่ต่ำต้อย” ซูเราะห์ ฆอฟิร อายะห์ที่ 60