ยิวและการบอยคอตสินค้ายิว




รู้จักยิวสามจำพวกตามคำสอนของศาสนา

1.ยิวที่เป็นมิตร
2. ยิวที่เป็นไส้ศึก
3. ยิวที่เป็นศัตรู

ผู้ใช้นามว่า Abufadill Manasyotin สอบถามมาดังนี้

อัสสลามมุอะลัยกุ้มครับ อ. ฟาริด

ผม อยากถามด้วยความบริสุทธิ์ใจและอยากได้ความรู้เพิ่ม ในกรณีที่เรากินเราใช้สินค้าของยิว ว่าถือเป็นการสนับสนุนหรือไม่ อย่างไรครับ ญะซากั้ลลอฮุค็อยร็อนครับ


ก่อนจะตอบคำถามข้างต้นนี้ ขออธิบายคำว่า “ยิว” ตามบรรทัดฐานของศาสนาให้ทราบเป็นข้อมูลเบื้องต้นสักเล็กน้อยก่อนว่า ยิวนั้นมีทั้งที่เป็นมิตร และมีทั้งที่เป็นศัตรู หากเราไม่เข้าใจพื้นฐานการจำแนกตามหลักการของศาสนานี้ก็จะเกิดความเข้าใจผิดอย่างมหันต์

ยิวคือผู้สืบเสื้อสายมาจากนบียะอ์กู๊บ อลัยฮิสสลาม ผู้มีฉายาว่า อิสรออีล ซึ่งเป็นภาษาฮิบรู มีความหมายตรงกับภาษาอาหรับว่า “อับดุลลอฮ์” หรือบ่าวของอัลลอฮ์นั่นเอง ดังนั้นเมื่อเราพบถ้อยคำเรียกขานพวกเขาในอัลกุรอานว่า บนีอิสรออีล แปลว่า ลูกหลานของอิสรออีล พวกเขาก็คือลูกหลานของนบียะอ์กู๊บ นั่นเอง

พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงประทานคัมภีร์อัตเตารอตให้แก่พวกเขา และได้ให้นบีมูซา อลัยฮิสสลาม เป็นนบีในหมู่พวกเขา ดังนั้นจึงมีคำเรียกขานพวกเขาในอีกชื่อหนึ่งว่า อะห์ลุ้ลกิตาบหรือ ชาวคัมภีร์

ในหมู่ชาวยิวนั้นมีทั้งผู้ที่ศรัทธาและผู้ปฏิเสธศรัทธา พวกเขาดำรงสถานะเช่นนี้เรื่อยมาจนกระทั่งมาถึงยุคของท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม

บางคนในหมู่พวกเขามารับอิสลามกับท่านนบี จึงได้เป็นศอฮาบะห์ของท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เช่นอับดุลลอฮ์ บินสลาม เป็นต้น บางคนก็วางเฉย เหล่านี้เป็นอะห์ลุซซิมมะห์ ยอมจ่ายญิชยะห์อยู่ภายใต้รัฐอิสลาม และบางคนก็ทำตัวเป็นไส้ศึก เช่นเหล่ามุนาฟีกีนโดยมีนายอับดุลลอฮ์ อิบนิ อุบัย อิบนิซะลูล เป็นแกนนำ และบางคนก็ประกาศตนเป็นศัตรูอย่างชัดเจน ดังนั้นสถานะภาพของพวเขาจึงมีหลากหลาย

พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า

وَلَوْ آمَنَ أهْلُ الكِتَابِ لَكَانَ خَيْراً لَهُمْ مِنْهُمُ المُؤْمِنُوْنَ وَأكْثَرُهُمُ الفَاسِقُوْنَ

“และถ้าหากชาวคัมภีร์ได้ศรัทธากัน มันก็จะเป็นการดีแก่พวกเขา ส่วนหนึ่งจากพวกเขาเป็นผู้ศรัทธา แต่ส่วนมากของพวกเขาเป็นคนชั่ว” ซูเราะห์อาลาอิมรอน อายะห์ 110

1. ยิวที่เป็นมิตร ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในรัฐอิสระ หรืออยู่ภายใต้รัฐอิสลามโดยจ่ายภาษีคุ้มครองก็ตาม หากพวกเขามิได้เป็นศัตรูก็สามารถคบหาสมาคมและทำธุรกรรมกับพวกเขาได้
ท่านหญิงอาอิชะห์ รายงานว่า ท่านนบีเคยซื้ออาหารจากชาวยะฮูด ดังนี้

اشْتَرَى رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ طَعَاماً مِنْ يَهُوْدِيٍّ بِنَسِيْئَةٍ وَرَهَنَهُ دِرْعًا لَهُ مِنْ حَدِيْدٍ

“ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้ซื้ออาหารจากชาวยะฮูดจำนวนหนึ่ง โดยค้างชำระแล้วท่านเอาเสื้อเกราะของท่านที่ทำจากเหล็กค้ำปะกันไว้” ศอเฮียะห์บุคอรี ฮะดีษเลขที่ 2092

ในอีกคำรายงานหนึ่งท่านหญิงอาอิชะห์ กล่าวว่า “ขณะที่ท่านนบีเสียชีวิตนั้นเสื้อเกราะของท่านยังถูกค้ำประกันไว้กับชาวยะฮูด เนื่องจากข้าวฟ้างจำนวน 30 ศออ์” ศอเฮียะห์บุคอรี ฮะดีษเลขที่ 2700

นอกจากนี้แล้ว พระองค์อัลลอฮ์ยังทรงอนุมัติอาหารที่เป็นสัตว์เชือดของพวกเขาแก่มุสลิม และอนุญาตให้แต่งงานกับหญิงสาวพรหมจรรย์พวกเขา ตามที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า

اليَوْمَ أُحِلَّ لَكُمُ الطَيِّبَاتِ وَطَعَامُ الَّذِيْنَ أوْتُوا الكِتَابَ حِلٌّ لَكُمْ وَطَعَامُكُمْ حِلُّ لَهُمْ وَالمُحْصَنَاتِ مِنَ المُؤْمِنَاتِ وَالمُحْصَنَاتِ مِنَ الَّذِيْنَ أوْتُوا الكِتَابَ مِنْ قَبْلِكُمْ إذَا أتَيْتُمُوْهُنَّ أُجُوْرَهُنَّ مُحْصِنِيْنَ غَيْرَ مُسَافِحِيْنَ وَلاَ مُتَّخِذِي أخْدَانِ وَمَنْ يَكْفُرْ بِالإيْمَانِ فَقَدْ حَبِطَ عَمَلُهُ وَهُوَ فِي الآخِرَةِ مِنَ الخَاسِرِيْنَ

“วันนี้สิ่งที่ดีๆ ได้อนุมัติแก่พวกเจ้า และอาหารของบรรดาผู้ซึ่งได้รับคัมภีร์ก็เป็นที่อนุมัติแก่พวเจ้า และอาหารของพวกเจ้าก็เป็นที่อนุมัติแก่พวกขา และหญิงที่บริสุทธิ์จากบรรดาผู้ศรัทธา และหญิงที่บริสุทธิ์จากผู้ซึ่งได้รับคัมภีร์ก่อนหน้าพวกเจ้าก็เป็นที่อนุมัติแก่พวกเจ้าด้วย เมื่อพวกเจ้าได้ให้มะฮัรแก่พวกนางในฐานะผู้แต่งงาน โดยมิใช่เป็นผู้ละเมิดประเวณีอย่างเปิดเผย และมิได้เอาพวกนางเป็นเพื่อนเพื่อการละเมิดประเวณีอย่างลับๆ และผู้ใดที่ปฏิเสธการศรัทธา งานของเขาก็พินาศ และในวันอาคิเราะห์นั้น เขาก็เป็นหนึงในบรรดาผู้ขาดทุน” ซูเราะห์อัลมาอิดะห์ อายะห์ที่ 5

รายละเอียดของเรื่องนี้ผมเขียนไว้เมื่อปี 2547 ชื่อหนังสือ สถานภาพของยะฮูดี นัศรอนีและอะห์ลุ้ลกิตาบ เล่มที่ 1 และ 2 ไม่ทราบว่ายังมีเหลือตามร้านหนังสือทั่วไปหรือไม่

2. ยิวที่เป็นไส้ศึก พวกเขาไม่ใช่ผู้ศรัทธาแต่สร้างภาพของการเป็นผู้ศรัทธา ซึ่งในยุคของท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม นั้น พวกเขาปลอมตัวอยู่ในหมู่ศอฮาบะห์ เมื่อมีโอกาสพวกเขาก็ก่อกวน บ่อนทำลาย ปล่อยข่าวทำลายท่านนบีและครอบครัวให้เกิดความเสื่อมเสีย เช่นปล่อยข่าวว่าท่านหญิงอาชิอะห์มีชู้ อย่างนี้เป็นต้น เถือกเถาเหล่ากอของคนกลุ่มนี้ยังมีอยู่ในปัจจุบันภายใต้ชื่อ ชีอะห์อิหม่ามสิบสอง คนกลุ่มนี้นอกจากจะไม่ได้เป็นมุสลิมแล้ว ยังดึงมุสลิมออกจากอิสลามอีกด้วย
พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า

يَأيُّهَا النَّبِيُّ جَاهِدِ الكُفَّارَ وَالمُنَافِقِيْنَ وَاغْلُظْ عَلَيْهِمْ وَمَأْوَاهُمْ جَهَنَّمَ وَبِئْسَ المَصِيْرُ

“โอ้นบีเอ๋ย จงต่อสู้กับบรรดาผู้ปฏิเสธ (ที่เป็นศัตรู) และบรรดาผู้กลับกลอกการศรัทธา และจงเด็ดขาดกับพวกเขา และที่พำนักของพวกเขานั้นคือนรกญะฮันนัม และเป็นที่กลับไปที่เลวร้ายจริงๆ” ซูเราะห์ อัตเตาบะห์ อายะห์ที่ 73

إنَّ المُنَافِقِيْنَ فِي الدَّرْكِ الأسْفَلِ مِّنَ النَّارِ وَلَنْ تَجِدَ لَهُمْ نَصِيْراً

“แท้จริงบรรดาผู้กลับกลอกด้านการศรัทธานั้นอยู่ในนรกขั้นต่ำสุด และเจ้าจะไม่พบผู้ช่วยเหลือใดๆแก่พวกเขา” ซูเราะห์อันนิซาอ์ อายะห์ที่ 145

وَلاَتُصَلِّ عَلَى أَحَدٍ مِّنْهُمْ مَاتَ أبَداً وَلاَ تَقُمْ عَلَى قَبْرِهِ إنَّهُمْ كَفَرُوا بِاللهِ وَرَسُوْلِهِ وَمَاتُوا وَهُمْ فَاسِقُوْنَ

“และเจ้าอย่าได้ละหมาดให้คนใดในหมู่พวกเขาที่ตายเป็นอันขาด และอย่ายืนที่หลุ่มศพ (ขอดุอาอ์ให้) แก่เขา แท้จริงพวกเขานั้นปฏิเสธต่ออัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์ และพวกเขาได้เสียชีวิตในขณะที่พวกเขาเป็นผู้ละเมิด” ซูเราะห์อัตเตาบะห์ อายะห์ที่ 84

ตอบกันเองนะครับว่า ยังจะเป็นมิตรและคบหาสมาคมกับคนเหล่านี้อยู่อีกหรือ

3. ยิวที่เป็นศัตรู หรือคู่สงคราม ยิวในกลุ่มนี้พระองค์อัลลอฮ์ทรงห้ามบรรดาผู้ศรัทธาไม่ให้เอาพวกเขา มาเป็นมิตร และพระองค์ได้แฉพฤติกรรมของพวกเขามากมายในอัลกุรอานเพื่อมิให้เหล่าผู้ศรัทธาเอาพฤติกรรมของพวกเขามาเป็นเยี่ยงอย่าง
พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า

وَلَنْ تَرْضَى عَنْكَ اليَهُوْدُ وَلاَ النَصَارَى حَتَّى تَتَّبِعَ مِلَّتَهُمْ

“เหล่ายะฮูดและนะศอรอนั้นจะไม่พอใจเจ้า จนกว่าเจ้าจะปฏิบัติตามลัทธิของพวกเขา” ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 120

يَأيُّهَا الَّذِيْنَ آمَنُوا لاَ تَتَّخِذُوا اليَهُوْدَ وَالنَّصَارَى أوْلِيَاءَ بَعْضُهُمْ أوْلِيًاءُ بِبَعْضٍ وَمَن يَتَوَلَّهُم مِنْكُمْ فَإنَّهُ مِنْهُمْ إنَّ اللهَ لاَ يَهْدِى القَوْمَ الظَالِمِيْنَ

“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย พวกเจ้าอย่าได้เอายะฮูดและนะศอรอมาเป็นมิตร เพราะพวกเขาเป็นมิตรซึ่งกันและกัน และผู้ใดในหมู่พวกเจ้าเอาพวกเขามามิตร แท้จริงเขาได้เป็นหนึ่งในหมูพวกเขาแล้ว แท้จริงอัลลอฮ์นั้นจะไม่นำทางกลุ่มชนที่อธรรม” ซูเราะห์อัลมาอิดะห์ อายะห์ที่ 51

ดูพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงประจานพวกเขาไว้ในซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ หรือจะเข้าไปที่หน้าเวป www.fareedfendy.com หมวดตัฟซีรอัลกุรอาน

นอกจากนี้แล้ว ท่านอิบนุอับบาสยังได้กล่าวว่า : หญิงของชาวอะห์ลุ้ลกิตาบนั้นมีทั้งที่อนุมัติแก่พวกเรา และมีทั้งที่ไม่อนุมัติแก่พวกเรา แล้วท่านก็อ่านอัลกุรอานอายะห์ที่ว่า
“พวกเจ้าจงต่อสู้กับบรรดาผู้ที่ไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ ไม่ศรัทธาต่อวันอาคิเราะห์ และไม่งดเว้นในสิ่งที่อัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์ได้ห้ามไว้ และไม่ถือมั่นต่อศาสนาที่เที่ยงธรรมจากบรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ จนกว่าพวกเขาจะจ่ายภาษีคุ้มครองจากมือของพวกเขาในสภาพที่ต่ำต้อย” ตัฟซีรอัตตอบารี เล่มที่ 4 หน้าที่ 107
“ส่วนการแต่งงานกับอะห์ลุ้ลกิตาบที่ต่อสู้ขัดขวางทำลายอิสลาม (คู่สงคราม) นั้นไม่อนุญาต ท่านอิบนุ อับบาสได้ถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านตอบว่าไม่อนุญาต แล้วท่านก็อ่านอายะห์ที่ว่า “พวกเจ้าจงต่อสู้กับบรรดาผู้ที่ไม่ได้ศัรทธาต่ออัลลอฮ์” จนกระทั่งถึงข้อความที่ว่า “จนกว่าพวกเขาจะจ่ายภาษีคุ้มครองจากมือของพวกเขาในสภาพที่ต่ำต้อย” ตัฟซีรกุรตุบีย์ ในการอธิบายซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 221

ดังนั้นเมื่อกล่าวถึงชาวยิวหรือผู้อื่นที่ไม่ได้เป็นมุสลิมนั้น ก็ขอให้เรามีใจเป็นธรรมและยุติธรรมตามคำสอนของศาสนาซึ่งพระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า

لاَ يَنْهَاكُمُ اللهُ عَنِ الَّذِيْنَ لَمْ يُقَاتِلُوْكُمْ فِي الدِيْنِ وَلَمْ يُخْرِجُوْكُمْ مِنْ دِيَارِكُمْ أنْ تَبَرُّوْهُمْ وَتُقْسِطُوا إلَيْهِمْ إنَّ اللهَ يُحِبُّ المُقْسِطِيْنَ

“พระองค์อัลลอฮ์ไม่ทรงห้ามพวกเจ้าเกี่ยวกับบรรดาที่ไม่ได้ต่อสู้กับพวกเจ้าในเรื่องศาสนา และไม่ได้ขับไล่พวกเจ้าออกจากที่อยู่อาศัย ในการที่พวกเจ้าจะทำดีกับพวกเขา และให้ความเป็นธรรมแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์รักบรรดาผู้ที่ให้ความเป็นธรรม” ซูเราะห์อัลมุมตะฮินะห์ อายะห์ที่ 8

إنَّمَا يَنْهَا كُمُ اللهُ عَنِ الَّذِيْنَ قََاتَلُوْكُمْ فِي الدِيْنِ وَأخْرَجُوْكُمْ مِنْ دِيَارِكُمْ وَظَاهَرُوا عَلى إخْرَاجِكُمْ أنْ تَوَلَّوْهُمْ وَمَن يَتَوَلَّهُمْ فَأوْلئِكَ هُمُ الظَّالِمُوْنَ

“ที่จริงแล้วพระองค์อัลลอฮ์ทรงห้ามพวกเจ้าจากบรรดาผู้ซึ่งต่อสู้กับพวกเจ้า ในเรื่องศาสนา และขับไล่พวกเจ้าออกจากที่อยู่อาศัย และผู้ที่ให้ความช่วยเหลือในการกระทำนั้นด้วย ในการที่จะเป็นมิตรกับพวกเขา และผู้ใดเป็นมิตรกับเขา พวกเขานั่นแหละเป็นผู้อธรรม” ซูเราะห์อัลมุมตะฮินะห์ อายะห์ที่ 9

เมื่อท่านได้รับทราบสถานะของยิวสามจำพวกนี้แล้ว ท่านคงตัดสินใจได้ไม่ยากว่า จะคบใครเป็นมิตรหรือจะยึดใครเป็นศัตรู จะบอยคอตสินค้าของยิวทั้งหมด หรือเฉพาะกลุ่ม หรือไม่อย่างไร ตัดสินใจได้บนพื้นฐานคำสอนของศาสนาดังที่แสดงมาข้างต้น แต่สิ่งที่ควรระวังก็คือ อย่าทำให้ของฮะรอมเป็นของฮะลาล และอย่าทำให้ของฮะลาลเป็นของฮะรอมเป็นอันขาด


ฟารีด เฟ็นดี้
วันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2556